"จารุณี ชินวงศ์วรกุล" แม้จะไม่ค่อยปรากฎชื่อ หรือพูดถึงในหน้าสื่อ เหมือนนักลงทุนรายใหญ่ที่เราๆ ท่านๆ ได้ยินชื่อกันบ่อยๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า "จารุณี ชินวงศ์วรกุล" เป็นอีกหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น เพียงแต่จัดอยู่ในประเภท Low Profile แต่...High Profit เพราะมูลค่าพอร์ตใหญ่กว่า เซียนหุ้นบางคนที่มีชื่อเสียงในตลาดหุ้น
ซึ่ง "จารุณี ชินวงศ์วรกุล" เป็นภรรยา คุณวิชิต ชินวงศ์วรกุล ประธานบริหารบริษัท ชินวงศ์ ฟู้ด กรุ๊ป หรือ CWF ผู้ผลิตและส่งออกผลไม้อบแห้งรายใหญ่ของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่สมุทรสาคร
จากการตรวจสอบข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์ล่าสุด พบว่าพอร์ตของ "จารุณี ชินวงศ์วรกุล" ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียน 15 บริษัท มูลค่ารวมมากกว่า 7 พันล้านบาท บางบริษัทถือจนกลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1
โดยเมื่อปีที่แล้ว "จารุณี ชินวงศ์วรกุล" เข้าไปซื้อหุ้น CBG หรือ คาราบาวกรุ๊ป จนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 4 พันล้านบาท แต่ปัจจุบันได้โยกพอร์ตขายออกไปจนหมด
โดยหลังจากขาย CBG ได้เงินไป 4 พันกว่าล้าน ก็นำเงินไปซื้อหุ้น TU หรือไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป แทน จำนวน 169.32 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,827.64 ล้านบาท
เข้าไปซื้อหุ้น TTB หรือ ธนาคารทหารไทยธนชาติ จำนวน 1,018.40 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1,313.73 ล้านบาท
หุ้น PLANB หรือ แพลน บี มีเดีย จำนวน 80.24 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 633.96 ล้านบาท
เข้าไปถือหุ้น PTG หรือ พีทีจี เอ็นเนอยี จำนวน 30.03 ล้านหุ้น มูลค่า 405.40 ล้านบาท
และเข้าไปถือหุ้น JAS หรือ จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ของเสี่ยพิญช์ โพธารามิก จำนวน 71.60 ล้านหุ้น เป็นเงิน 263.52 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังถือหุ้นใน IT หรือ ไอที ซิตี้ จำนวน 16.80 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 258.76 ล้านบาท
หุ้น TACC หรือ ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ 16.98 ล้านหุ้น เป็นเงินกว่า 122.25 ล้านบาท
ถือหุ้น NV หรือ โนวา ออร์แกนิค ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้นเมื่อปลายธันวาคม2564 จำนวน 6.89 ล้านหุ้น เป็นเงิน 39.97 ล้านบาท
ส่วนหุ้นที่ถือยาวข้ามปี และปัจจุบันก็ยังคงถืออยู่ ประกอบด้วย SO หรือ สยามราชธานี โดยถืออยู่ 16.89 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 353.16 ล้านบาท
DUSIT หรือ ดุสิตธานี ถือร่วมกับสามีรวม 52.42 ล้านหุ้น เป็นเงิน 503.26 ล้านบาท
ถือหุ้น SUC หรือ บริษัท สหยูเนี่ยน 7 ล้านหุ้น เป็นเงิน 215.34 ล้านบาท
ถือหุ้น SFT หรือ ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) 30.52 ล้านหุ้น เป็นเงินกว่า 175.49 ล้านบาท
ถือหุ้น CWT หรือ ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป 32.05 ล้านหุ้น เป็นเงินกว่า 125.67 ล้านบาท
ถือหุ้น ACAP หรือ เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป 78.42 ล้านหุ้น เป็นเงิน 74.50 ล้านบาท
และถือหุ้น PACE หรือ เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ อีกจำนวน 547.83 ล้านหุ้น เป็นเงิน 16.43 ล้านบาท