ส่องหุ้นไหนน่าลงทุนในช่วงวิกฤต “โอไมครอน” ที่กำลังซ้ำเติมตลาดหุ้นไทยให้อยู่ในช่วงขาลง โบรกเกอร์หลายสำนักฟันธง หุ้นโรงพยาบาลยังน่าสน
ความกังวลต่อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในชื่อ “โอไมครอน” ที่พบครั้งแรกในทวีปแอฟริกา ที่เป็นสายพันธุ์ที่เชื้อสามารถกระจายตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น และต่อต้านกับวัคซีนในปัจจุบันที่มีอยู่ ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบโลกตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน รวมไปถึงตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสถูกแรงขาย ย่อตัวตัว
แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาส โบรกเกอร์หลายสำนักต่างมองว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาลง ยังมีหุ้นบางตัวที่กลับได้ประโยชน์จากวิกฤตครั้งนี้ และน่าเข้าลงทุน หรือเก็งกำไรในระยะสั้นๆ
บล.เคทีบีเอสที มองว่า Sector ที่มีโอกาสได้รับประโยชน์มากที่สุดจากผลกระทบของ “โอไมครอน” ได้แก่ 1) Healthcare & Medical equipment ได้แก่ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH),บมจ.รพ.จุฬารัตน์ (CHG), บมจ.เซนต์เมด (SMD), บมจ.ศรีตรังโกลฟส์(ประเทศไทย) (STGT) โดยมองว่า BCH, CHG มีความพร้อมและความเป็นผู้นำในการรักษาผู้ป่วยโควิด ปัจจุบันยังคงมีเตียงทั้งในโรงพยาบาลและ hospital อยู่ในระดับสูง ขณะที่โรงพยาบาลที่เน้นผู้ป่วยต่างชาติจะพบว่า การเดินทางเข้ามาของผู้ป่วยต่างชาติมีแนวโน้มลดลงและเดินทางเข้ามายากขึ้น ขณะที่ SMD หากโควิดมีการระบาดรุนแรง จะทำให้มีความต้องการเครื่องมือแพทย์สูงขึ้น และ STGT ได้ประโยชน์จากความต้องการถุงมือยางในระดับสูง
2) Food supplement ได้แก่ บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA) คาดความต้องการ Food supplement และ Pharmaceutical ยังอยู่ระดับสูงต่อเนื่อง จากผู้บริโภคต้องการเพิ่มภูมิคุ้มกัน
3) IT Distributor ได้แก่ บมจ.คอมเซเว่น (COM7) บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น(ประเทศไทย) (SIS) จากการคาดการณ์ความต้องการสินค้า IT จะยังอยู่ในระดับสูง, ยอดขายสินค้าและการลงทนุ ระบบ IT จะปรับตัวเพิ่มขึ้น
4) Global play หรือกลุ่มที่ผลประกอบการขึ้นกับลักษณะเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ได้แก่ บมจ.ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด (ASIAN) บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU), บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE), บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ (HANA), บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER), บมจ.ซันสวีท (SUN) ได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า
ด้าน บล.เอเอสแอล มองว่า กลุ่มที่ได้ประโยชน์โดยตรงที่ปรับตัวขึ้นมาแรง เช่น กลุ่มโรงพยาบาล-อุปกรณ์การแพทย์-ถุงมือยาง แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้นๆ หรือขายทำกำไร
เช่นเดียวกับ บล.คันทรีกรุ๊ป มองว่า จากการศึกษาช่วงที่ประเทศไทยเผชิญการระบาดโควิดสายพันธุ์ DELTA เมื่อช่วงกลางเดือนมิ.ย. ถึงกลางเดือน ส.ค.(ช่วงใกล้ PEAK ของการระบาด) พบว่า หุ้นที่ได้รับประโยชน์ ได้แก่ โรงพยาบาล (BCH BDMS CHG) แพ็คเกจจิ้ง (SCGP) ICT (INTUCH) อิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) อาหาร (TU)
ดังนั้น กลยุทธ์ที่แนะ คือ สำหรับการ Trading ในภาวะที่ตลาดกังวลกับ COVID-19 อาจเลือก Sector ที่ได้ประโยชน์ อาทิ โรงพยาบาล (BCH BDMS CHG) ถุงมือยาง (STA STGT) แต่ควรระมัดระวังกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) โดยเฉพาะ MINT ที่มีสัดส่วนรายได้จาก EU ค่อนข้างสูงราว 55%
-------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1