ตลาดหุ้นไทยวันนี้แดงเดือด SET ร่วง 21 จุด ทั่วโลกผวาล็อกดาวน์เศรษฐกิจอีกรอบ หลังมีข่าว โควิด “โอไมครอน” รับมือยาก แถมรัฐบาลไทยลั่น มีคนติดเชื้อคนเดียวพร้อมปิดเมือง โบรกฯคาดพรุ่งนี้ลุ้นรีบาวด์ช่วงสั้น
ภาวะการซื้อขายหุ้นวันนี้ (30 พ.ย.2564) ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยเปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ก่อนจะปรับตัวขึ้นในรอบบ่าย แตะสูงสุด 1,612.10 จุด หลังจากนั้นไหลลงแรงต่อเนื่องมาระดับต่ำสุด 1,565.95 จุด และปิดตลาดที่ 1,568.69 จุด ลดลง 21 จุด หรือ 1.32% มูลค่าการซื้อขายสูง 159,490 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปิดร่วงลงมาตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก โดยช่วงบ่าย ตลาดหุ้นยุโรปติดลบราว 1.3% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวลงราว 1.5% หลังจากผู้บริหารของบริษัท โมเดอร์นา อิงค์ ออกมาบอกว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์นาอาจลดลงเมื่อเจอสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งจะต้องรอวัคซีนตัวใหม่อีก 2-3 เดือน ทำให้มีการประเมินว่าสถานการณ์อาจรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นกลับไปล็อกดาวน์อีกหรือไม่ ส่งผลลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนราคาน้ำมันฟิวเจอร์สปรับตัวลง 2% ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 0.5%
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลปัจจัยในประเทศ จากกระแสข่าวว่ารัฐบาลอาจกลับไปล็อกดาวน์หากพบคนติดเชื้อโอไมครอนแม้แค่คนเดียว อีกทั้งตลาดฯยังรับแรงกดดันจาก MSCI Rebalance หุ้นไทยซึ่งมีผลวันนี้ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.2564) ตลาดฯมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นมาได้ก่อน หลังจากที่หลุดเส้น EMA 200 วันที่ 1,570 จุด ทำให้น่าจะมีจังหวะในการเด้งขึ้นมาได้ก่อน โดยแนวรับอยู่ที่ 1,560-1,550 จุด และแนวต้าน 1,585-1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 16,033.59 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 7,348.40 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
EA มูลค่าการซื้อขาย 5,229.72 ล้านบาท ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 5,022.18 ล้านบาท ปิดที่ 372.00 บาท ลดลง 9.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 4,823.44 ล้านบาท ปิดที่ 113.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 421 หลักทรัพย์ ลดลง 1,543 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 322 หลักทรัพย์