Finnomena Funds (ฟินโนมีนา ฟันด์) มองแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลัง SET Index พลิกบวกเกือบ 200 จุด ฟื้นตัว 13% นับตั้งแต่ระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 เป็นโอกาสสะสมหุ้นปันผลสูงในดัชนี SETHD จากระดับ Dividend Yield ที่น่าสนใจ และเริ่มมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าจากต่างชาติ
นายชยนนท์ รักกาญจนันท์ CEO & Co-Founder, Finnomena Funds เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง นับตั้งแต่จุด Bottom ช่วงวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา SET Index ฟื้นขึ้นมาแล้วกว่า 13% นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ที่หนุนนำดัชนี เช่น DELTA, AOT, GULF, ADVANC และ PTT ขณะที่ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติก็เริ่มกลับเข้ามาสู่ตลาดหุ้นไทยบ้างแล้วช่วงสั้น ๆ ตามหลังตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค
อย่างไรก็ดี ทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และการถูกปรับเพิ่มประมาณการกำไรที่ต่ำ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน ซึ่งเกิดจากภาคการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักอ่อนแอ การบริโภคมีแนวโน้มซบเซาหลัง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถูกเลื่อนออกไป มีเพียงภาคการส่งออกที่ขยายตัวขึ้น เพราะการเร่งนำเข้าสินค้าของประเทศคู่ค้า จากความกังวลเรื่องภาษีนำเข้า (Tariff) ซึ่งกำลังจะถึงกำหนดวันที่ 1 สิงหาคมนี้
“แต่การที่ Valuation ตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่ถูกมาก ประกอบกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่น่าสนใจ ถือจุดแข็งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะหุ้นปันผล SETHD ที่ปัจจุบันให้ Yield เป็นสถิติสูงถึง 7.25% แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมกับเกิดสัญญาณ Market breadth ชี้ว่าตลาดมีโอกาสรีบาวด์ และนี่อาจเป็นจังหวะดีในการสะสมหุ้นไทย” นายชยนนท์ กล่าว
ดังนั้น Finnomena Funds จึงมีมุมมอง Slightly Positive ต่อตลาดหุ้นไทย แนะนำกองทุน TISCOHD-A ตามกลยุทธ์การลงทุนของ Mr.Messenger Call ที่มุ่งสร้างโอกาสทำกำไรระยะสั้น-กลางในรูปแบบ Trend Follower ทั้งนี้ TISCOHD-A เป็นกองทุนความเสี่ยงสูง (ระดับ 6) มีนโยบายการลงทุนหุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี SETHD ซึ่งช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นกองทุนที่สามารถทำผลตอบแทนโดดเด่นชนะทั้งดัชนี SET Index และ SETHD