บมจ.โปรเอ็น คอร์ป เปิดผลงานปี64 กำไร 29 ล้านบาท พุ่ง 15.38% บอร์ดเคาะปันผลหุ้นละ 0.0577 บาท "กิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม" ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 20% เน้นรุกกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง กอด Backlog งานโครงสร้างพื้นฐาน และงาน ICT แน่นกว่า 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ปีนี้  พร้อมลุยคริปโทเคอร์เรนซี 

นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) PROEN เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.38% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 25.27 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,061.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.57 % จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 1,005.51 ล้านบาท

กำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้จากกลุ่มธุรกิจ ICT และกลุ่มธุรกิจงานโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มสูงขึ้น เพราะลูกค้าของบริษัทในกลุ่มธุรกิจ E-Commerce, Game Online มีการขยายการลงทุนมากขึ้นอย่างชัดเจน รวมทั้งภาครัฐเปิดให้เข้างานโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพิ่มขึ้น หลังมีมาตรการผ่อนคลายโควิด-19

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบ จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.0667 บาท รวมเป็นเงิน 21.07 ล้านบาท คิดเป็น 60% ของกำไร จ่ายงวดไตรมาสแรกไปแล้ว 0.009 บาทต่อหุ้น เหลือที่จะจ่าย 0.0577 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล 10 พ.ค.65 และจะจ่ายเงินวันที่ 25 พ.ค.65 

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validator Node) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ กับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด 

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี ที่สร้างรายได้ประจำ หรือ Recurring Income โดยตั้งเป้าไว้เพื่อการเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากฐานรายได้ปีก่อน และมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง โดย ปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท  เป็นงานในส่วนของธุรกิจ ICT ประมาณ 300 ล้านบาท และที่เหลือส่วนประมาณ 700 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปี 2565 เป็นงานโครงสร้างพื้นฐานในการนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงใต้ดิน ตามนโยบายปรับภูมิทัศน์ของประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปี 2565 นี้

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนประมูลงานใหม่อีกหลายงานคาดว่าจะมีมูลค่าอีกไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ตามการเปิดให้เข้าร่วมในโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐ

นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในรูปแบบ “Digital Asset” หรือ “สินทรัพย์ดิจิทัล” ในรูปแบบ Cryptocurrency  ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาตอบโจทย์คนยุคใหม่ในเรื่องความง่ายและรวดเร็วในการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์