หุ้นไทยวันนี้ ลุ้นเด้งตามตลาดหุ้นรอบบ้าน หลังจากค่าเงินดอลลาร์-US bond yield อ่อนตัว เป็นบวกกับตลาด วันนี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญ  พิจารณาปม "นายกฯ 8 ปี" และ ECB ประชุมดอกเบี้ยนโยบาย คาดขึ้น 0.75% เพิ่มแรงกดดันเศรษฐกิจถดถอย ด้านราคาน้ำมันร่วงแรง เป็นลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (8 ก.ย.) นักวิเคราะห์จากบล. กรุงศรี ประเมิน SET ปรับตัวขึ้น 1,645 - 1,650 จุดก่อนสลับอ่อนตัว ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่รีบาวด์ขึ้นหลังค่าเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US bond yield) อ่อนตัวลง ประกอบกับแรงหนุนหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่างไรก็ตามแรงขายกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อของ FED และธนาคารกลางต่างๆ จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง 

วันที่ 8 ก.ย. การประชุม ECB  Consensus คาดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น  GPSC BGRIM GULF RATCH SCGP SCC EPG TASCO  อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง   และ KBANK BBL SCB KTB TTB BLA อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น  ส่วน  CPF TU GFPT TFG ASIAN เข้าสู่ High season การส่งออกและอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง

หุ้นแนะนำวันนี้

- BGRIM (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 44 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบร่วงแรง ลดแรงกดดันทางด้านต้นทุน ค่า Ft ปรับขึ้นหนุนรายได้ ขณะที่ปลายเดือนมีประเด็นการเปิดเผยแผน PDP2020 ฉบับใหม่ให้เก็งกำไร
  
- PLANB (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท) เบอร์ 1 ในธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมี Market share คิดเป็น 90% ของตลาดรวม กำไรทยอยฟื้นตัว และคาดว่าจะทำ New high ได้ในปีหน้าตามธุรกิจสื่อนอกบ้านที่กลับมาขยายตัวหลังวิกฤติ Covid-19 เริ่มคลี่คลาย

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+/-) วันนี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญประชุมนัดพิเศษปมดำรงตำแหน่ง 8 ปีของท่านนายกฯ: ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการประชุมนัดพิเศษของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้จะเป็นเพียงการอภิปรายพยานหลักฐานหรือจะมีการนัดตัดสินกับกรณีการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของท่านนายกฯ เบื้องต้นเรามีมุมเป็นกลางโดยคาดว่าศาลฯ จะยังไม่ตัดสิน แต่จะดำเนินการอภิปรายในพยานหลักฐานร่วมกัน จากนั้นถึงประกาศนัดวันตัดสินอีกครั้ง ทำให้ประเด็นนี้ไม่น่าส่งผลต่อบรรยากาศการซื้อขาย 

(-) ECB Meeting Consensus คาดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%: สืบเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนที่พุ่งสูงแตะระดับ 9.1% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี จึงมีความเป็นไปได้สูงที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของยุโรปในเย็นวันนี้จะมีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% จาก 0.5% เป็น 1.25% เพื่อลดแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อดังกล่าว

(-) น้ำมันดิบร่วงแรง แต่ปัจจัยลบยังเป็นเรื่องเดิมกังวลดอกเบี้ยขึ้น, เศรษฐกิจจีนอ่อนแอฉุดดีมานด์: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 4.94 ดอลลาร์  (-5.7%) ปิดที่ระดับ 81.94 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลธนาคารกลางทั่วโลกเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังจากอัตราเงินเฟ้อยังพุ่งสูง ประกอบกับเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกยังอ่อนแอ สะท้อนจากตัวเลขส่งออกและนำเข้าที่เติบโตเพียง 7.1% และ 0.3%จากช่วงเดียวกันปีก่อน (อดีตเติบโตเฉลี่ย 15-25%)