Market

LHFG  ผนึก บ.แม่ไต้หวัน ปั๊มแอลเอช แบงก์โตต่อเนื่อง เป้าสินเชื่อธุรกิจและรายย่อยโต 10% เน้นให้ผลตอบแทนดี ชูปล่อยกู้ผ่านแอปฯ 
2 มี.ค. 2566

กลุ่มการเงินแอลเอช ฯ กางแผนธุรกิจปี 66 ทั้งใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มและกลยุทธ์การ Synergy กับบริษัทแม่ CTBC หนุนแบงก์และบลจ.-บล. เติบโต คาดปีนี้ LH Bank สินเชื่อโต 10%  มุ่งเจาะลูกค้าสินเชื่อบ้าน เอสเอ็มอีและธุรกิจไต้หวัน  พร้อมเปิดขอสินเชื่อผ่านแอปฯ และลุยหารายได้ค่าฟีเพิ่มต่อเนื่อง ฝั่งกองทุนมั่นใจ AUM โตพุ่งแตะ 8.5 หมื่นล้าน

 

นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องราว3.7% โดยได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวการจ้างงานและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะทยอยปรับลดลงตามราคาพลังงาน อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเช่น การฟื้นตัวของรายได้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจบางกลุ่มที่เปราะบาง การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปรวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

 

สำหรับกลยุทธ์ปี 2566 ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรเหมาะสมกับสถานการณ์และจังหวะการลงทุนให้กับลูกค้าผ่าน Digital Platform รวมถึงกลยุทธ์การ Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจทางการเงินและ CTBC บริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มรวมทั้งขยายฐานลูกค้า ที่ทำธุรกิจต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น (Trade Finance) นอกจากนี้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อรูปแบบใหม่ ๆ และสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพแต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน

 

นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) กล่าวว่า  หลักสำคัญในการจัดทำแผนกลยุทธ์ คือ ความยั่งยืน (Sustainability) การเสริมสร้างความสามารถทางดิจิทัล (Digital Enabling) ความยืดหยุ่น (Resilience) และความเสี่ยงที่เหมาะสม ดังนั้นในปี 2566 ธนาคารมุ่งเติบโตในพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดี หรือ กลุ่ม Higher yield ที่มีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น ลูกค้ารายย่อยสินเชื่อบ้าน โดยปีนี้ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 8-10% ซึ่งจะมีการจับมือกับพันธมิตรต่างๆมากขึ้นและจะขยายตลาดออกไปนอกพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนกลุ่มลูกค้าสินเชื่อธุรกิจยังเป็นกลุ่มเอสเอ็มอีและลูกค้าไต้หวันจากฐานลูกค้าของกลุ่มการเงินบริษัทแม่สัญชาติไต้หวันด้วย โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อกลุ่มลูกค้าไต้หวันปีนี้เพิ่มอีกาาว 5 พันล้านบาท จากสิ้นปีที่แล้ว ยอดสินเชื่อกลุ่มนี้อยู่ที่ 9 พันล้านบาท ซึางจะทำให้สิ้นปีนี้ พอร์ตสินเชื่อลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ระดับ 1.5 หมื่นล้านบาท

 

พร้อมกันนี้  ธนาคารยังเดินหน้าสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น มีการ Cross selling ผลิตภัณฑ์ของธนาคารอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแผนการพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัล(Digital Transformation) ที่เน้นการปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ควบคู่ไปกับการยกระดับ Digital Platform ให้ตอบโจทย์การทำธุรกรรมการเงินและการลงทุนที่ครบวงจร เช่นInvestment Application “LH Bank Profita” และ Mobile Banking Application “LHB You” ด้วย Highlight Features ทางการเงินรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย รวมถึงการขอสินเชื่อบนดิจิทัล แพลตฟอร์มด้วย

 

“ปีนี้ ธนาคารจะพยายามควบคุม NPL ห้อยู่ในระดับต่ำกว่า2.5% โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อย่างระมัดระวัง ไม่เน้นเติบโตก้าวกระโดด”

 

ทั้งนี้ ปี 2565 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,579 ล้านบาทหรือเติบโตร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับปี 2564 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย สำหรับด้านการขยายตัวของสินเชื่อเติบโตร้อยละ 23 ซึ่งเติบโตทุกSegments โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยมีอัตราการเติบโตสูงกว่าร้อยละ 47 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อบ้าน ส่วนกลุ่มลูกค้า SME เติบโตร้อยละ 35 และกลุ่มลูกค้าไต้หวันเติบโตสูงถึงร้อยละ 95 และระดับ NPL อยู่ในระดับต่ำ ที่ร้อยละ 2.09 ลดลงจากปีที่แล้วที่ร้อยละ 2.44 และ ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ NPL Coverage อยู่ที่ร้อยละ 221

 

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) กล่าวว่า กลยุทธ์ปี 2566 เน้นขยายฐานลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล ทั้งสถาบันและลูกค้า Ultra High Net Worth ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) เพิ่มขึ้นแตะ 8.4-8.5 หมื่นล้านบาทขยายตัวจากสิ้นปีก่อนที่อยู่ 55,658 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ปี 2565 ผลการดำเนินงานการบริหารจัดการกองทุนปี 2565 LH Fund มีขนาดกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ประมาณ 55,658 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 จากปี 2564

 

สำหรับกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) มีขนาดกองทุนอยู่ที่ 14,223 ล้านบาทเติบโตร้อยละ 51 ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) มีขนาดกองทุนอยู่ที่ 6,046 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 4 

 

นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Securities) กล่าวถึงแผนกลยุทธ์ปี 2566 ว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า

 

นอกจากนี้ยังมุ่งต่อยอดบริการทางการลงทุนต่อลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ผ่านการใช้ Data Analytics ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนให้ตอบรับทุกสภาวะของตลาดการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ลูกค้า โดยจะพัฒนาระบบเชื่อมโยงกับMobile Banking Application “LHB You” เพื่อเพิ่มช่องทางบริการผ่าน Digital Platform ให้กับลูกค้าให้ได้รับบริการด้านการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจร ตลอดจนเป็นการขยายฐานลูกค้ารายย่อย 

 

ส่วนผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทมีรายได้ค่านายหน้ารวม 186.1 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ตามปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นที่ซบเซาเมื่อเทียบกับฐานที่สูงในปี2564 ขณะที่มีรายได้ดอกเบี้ยรับและเงินปันผล รวม 414.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 จากปี 2564 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 134.6 ล้านบาท 
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com