หุ้นไทยวันนี้ บล.กรุงศรีคาดตลาดหุ้นชะลอความแรง แนวโน้มปรับขึ้นสลับย่อ จากแรงขายทางเทคนิค  แม้จะมีแรงหนุนราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง   แต่ฟันด์โฟลทคงมีความผันผวนจากประเด็นเดิมๆ FED ขึ้นดอกเบี้ย และวันนี้ต้องติดตามผลประชุมธนาคารกลางยุโรป-อังกฤษ โดย SET มีแนวต้าน 1,675 - 1,680 จุด 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (3 ก.พ.) บล.กรุงศรี ประเมินว่า SET ขึ้นสลับย่อ โดยมีแนวต้าน 1,675 - 1,680 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงหลังโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรล/วัน ตามคาดการณ์ รวมถึงแรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2564 ที่กำลังทยอยประกาศ

อย่างไรก็ตาม Fund flow ที่ผันผวนจากความกังวล FED เร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อรวมถึงแรงขายตามสัญญาณเทคนิคจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง  วันนี้แนะติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่หลังจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+/-) OPEC+ Meeting เพิ่มปริมาณการผลิต 4 แสนบาร์เรลต่อวันตามคาด: กลุ่ม OPEC+ มีมติคงกำลังการผลิตที่ระดับ 4 แสนบาร์เรลต่อวันตามเดิม เป็นไปตามที่เราและตลาดคาดไว้  ราคาน้ำมันดิบตอบรับเชิงบวกเล็กน้อย เนื่องจากเชื่อว่าตลาดน้ำมันจะยังเผชิญกับภาวะอุปทานตึงตัวต่อไป โดยราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 88.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

(+/-) คาด ECB คงดอกเบี้ยแต่ BoE มีโอกาสปรับขึ้น: เราคาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0% ตามเดิม แต่จะลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตามโครงการ Asset Purchase Programme (APP) แบบค่อยเป็นค่อยไปจากระดับ 40,000 ล้านยูโรต่อเดือน ในปัจจุบันเหลือ 20,000 ล้านยูโรต่อเดือนในช่วงปลายปี ส่วน QE ตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP)  วงเงิน 1.85 ล้านล้านยูโรคาดว่าจะยุติโครงการในเดือนมี.ค. ส่วน BoE meeting มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.5% หลังจากอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษยังเร่งตัว

(+/-) พรุ่งนี้ติดตามสหรัฐรายงานตัวเลข Nonfarm payrolls (ตัวเลขว่างงานนอกภาคเกษตร) วัดความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน: เบื้องต้น Consensus สหรัฐจะมีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง แต่ลดลงจากเดือน ธ.ค. ที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 199,000 ตำแหน่ง สะท้อนการฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังมีความเปราะบาง ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะทรงตัวที่ 3.9%

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้น ได้แก่  BBL KBANK KTB BLA  

กลุ่มที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบ และ ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง ได้แก่ PTTEP TOP PTTGC IVL SPRC

ครม.อนุมัติเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 และเปิดลงทะเบียน Test&Go ได้แก่ AOT MINT CENTEL ERW AAV 

หุ้นแนะนำวันนี้

- FORTH (ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท) คาดกำไรไตรมาส 4/64 (4Q21) ที่ 220 ล้านบาท (+16%yoy, +46%qoq) จากการรับรู้รายได้งานโบกี้ของการรถไฟมูลค่า 798 ลบ.และงานแผงวงจรแบตเตอรี่รถ EV Car คาดกำไรทั้งปีของปี 21 ที่ 757 ล้านบาทเติบโต 72%yoy และเราคาดกำไรปี 22 จะเติบโตต่อเนื่องอีก 36%yoy

- HMPRO (ราคาเป้าหมาย 17 บาท) เปิดเมืองเปิดประเทศหนุนยอด SSSG พลิกเป็นบวก 12% ใน 4Q21 เทียบกับ -11% ใน 3Q21 หนุนกำไรสุทธิ 4Q21 พุ่งเท่าตัว เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิ 1,576 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 81%qoq และ 2%yoy