แนวโน้มตลาดวันนี้ (5 ส.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ ตลาดกลับมาทดสอบระดับที่มีนัยสำคัญ 1228-1230 หากยืนเหนือได้จะกลับมาเป็นบวกในระยะสั้น มีแนวต้านถัดไปที่ 1235/1240 ในขณะที่แนวรับประเมินไว้ที่ 1210/1200 โดย Fund Flow มีสัญญาณไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2.6 พันลบ. DELTA กลับมาหนุนตลาดอีกครั้ง
ประเด็นสำคัญ
• ไทย-สหรัฐฯ เตรียมออกแถลงการณ์และลงนามข้อตกลงการค้า โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรไทยในอัตรา 19% และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. เป็นต้นไป ส่วนรายละเอียดจะรอให้สหรัฐฯ นัดเจรจาเป็นประเด็นๆ ไป และจะนำมาหารือและเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และสุดท้ายจะขอความเห็นชอบจาก ครม. และรัฐสภาตามขั้นตอนกฎหมาย
• ปธน. ทรัมป์ประกาศเตรียมจะปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้าอินเดียอีก และกล่าวหาอินเดียว่านอกจากการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียจำนวนมากแล้ว ยังมีการขายต่อน้ำมันดิบเพื่อทำกำไร โดยไม่สนใจว่าสงครามในยูเครนที่กำลังเกิดขึ้น
• สหภาพยุโรป (EU) ประกาศจะผ่อนผันมาตรการตอบโต้ต่อมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อเปิดทางการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ จะมีผลตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป และ EU จะเดินหน้าหาข้อสรุปการเจรจาตามที่ได้ตกลงกับสหรัฐฯ ในวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา
• Goldman Sachs เตือนราคาน้ำมันดิบมี Upside Risk หลังตลาดน้ำมันเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากอุปทานน้ำมันรัสเซียและอิหร่านที่ถูกคว่ำบาตร ขณะที่แรงกดดันต่ออุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มลดลงหลังมาตรการภาษีศุลกากรมีความชัดเจน อย่างไรก็ตามยังคงคาดการณ์ราคา Brent เฉลี่ยที่ US$64/bbl ในช่วง 4Q68 และ US$56/bbl ในปี 2569
• รมต. การค้ามาเลเซียเผยว่ามาเลเซียจะทุ่มงบฯ ราว 1.5 แสนล้านดอลลาร์ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อสั่งซื้อเทคฯสหรัฐฯ สำหรับพัฒนาอุตฯ เซมิคอนดักเตอร์, การบินและอวกาศ และ Data Center, ลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ส่วนบริษัทพลังงานแห่งชาติ Petronas จะซื้อ LNG สหรัฐฯ มูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway หลังไทยได้ข้อสรุปการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ แม้ระยะสั้นอาจมีแรงขาย Sell on Fact จากการฟื้นตัวของ SET ขึ้นมาที่ระดับ 1230-1250 (PER ราว 14 เท่า) สะท้อนถึงความหวังว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากไทยในระดับใกล้เคียงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคไประดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ดี มองอัตราดังกล่าวในอัตรา 19% ยังต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ทำให้มองไทยยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันที่ดีในตลาดสหรัฐฯ และอาจจะช่วยหนุนให้ Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง และส่งผลให้ SET มีโอกาสกลับขึ้นไปซื้อขายกรอบที่ระดับ 14-16 เท่า หรือ 1242-1419 จุด กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy”
Daily Top Picks
BDMS: มองเป็นหุ้น Laggard ซึ่งคาดได้อานิสงส์ Fund Flow ไหลเข้า และราคาหุ้นยังถูกเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง BH ขณะที่คาดกำไร 2Q68 จะเพิ่มขึ้น YoY จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาล ส่วน Valuation ต่ำ ระดับต่ำที่ PE ปี 2568 ที่ 19 เท่า (ต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต) น่าจะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น
TRUE: มองราคาหุ้น Downside จำกัด มีโอกาสรีบาวด์ต่อการประมูลคลื่นคาดว่าจะประหยัดต้นทุนได้ปีละ 4.2 พันลบ.และจะเริ่มรับรู้ตั้งแต่เดือน ส.ค. นี้เป็นต้นไป เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568 เพิ่ม 11.1% เป็น 1.75 หมื่นลบ. (+85.5% YoY) และปี 2569 เพิ่ม 24.9% เป็น 2.1 หมื่นลบ.Valuation ในแง่ EV/EBITDA ถูกกว่า ADVANC