รถยนต์ EV ที่ว่ากันว่ากำลังจะเปลี่ยนโฉมของยานยนต์ทั่วโลกในอีก 2-3 ปีข้างหน้า กับก้าวย่างที่สำคัญของ EA ที่เปิดตัวโรงงานฯ ผลิตแบตเตอรี่ที่ใหญ่สุดในอาเซียน ที่ผู้บริหารมองว่า นี่แหละคือ หัวใจสำคัญของการผลิตรถ EV
“โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงาน จะเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า(Electric Vehicle) และการเปิดตัว “อมิตา เทคโนโลยี(ประเทศไทย)” โรงงานผลิตแบตเตอรี่ฯ ที่ทันสมัยและมีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนถึง 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเตรียมขยายกำลังผลิตสู่ 50 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ในอนาคต จะสนับสนุนให้ประเทศไทยขึ้นแท่น พร้อมเป็นแหล่งผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมกักเก็บพลังงานในระดับภูมิภาค”
คำกล่าวของ นายสมโภคชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ในการเปิดตัว“อมิตา เทคโนโลยี(ประเทศไทย)” สะท้อนถึงมุมมองว่า แบตเตอรี่ คือ หัวใจหลักของยานยนต์ EV ใครสามารถกุมการผลิตแบตเตอรี่ได้ก่อนก็เหมือนได้เข้ากุมหัวใจของยานยนต์ EV ได้แล้ว ด้วยความเชื่อว่า กระแสความต้องการยานยนต์ EV กำลังมา ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์โดยสาร หรือแม้แต่เรือโดยสาร สะท้อนผ่านโครงการสำคัญๆ ในแผนงานของบริษัทในปีนี้
นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในโรงงานแห่งนี้ ย่อมตอบโจทย์การเป็นพลังงานสะอาดรักษ์สิ่งแวดล้อมของบริษัท โดยนำเทคโนโลยีจาก บริษัทอมิตา เทคโนโลยี อิงค์(ไต้หวัน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธียมมานานกว่า 20 ปี มีจุดเด่นที่เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ชนิด Pouch Cell ที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำขึ้นจากวัสดุที่มีความปลอดภัยสูงสามารถบรรจุพลังงานได้สูง มีน้ำหนักเบา มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่มีส่วนประกอบของสารที่เป็นอันตราย เช่น กรด หรือตะกั่ว และใช้เทคนิคพิเศษในการผลิตเซลล์ เพื่อให้สามารถคัดแยกแผ่นขั้วบวกและขั้วลบได้ง่ายในขั้นตอนของการรีไซเคิล เมื่อแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน จึงทำให้เป็นแบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ แบตเตอรี่ของอมิตายังออกแบบให้เข้ากันกับเทคโนโลยีแบบ Ultra-Fast Charge ที่รองรับการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ภายในเวลาเพียง 15 นาที พร้อมรองรับการชาร์จได้สูงถึง 3,000 รอบ ที่จะเป็นจุดเด่นสำหรับรองรับการใช้งานของยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจัยเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุดด้วย
“แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน” สามารถใช้กับ “ยานยนต์ไฟฟ้า” ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” “รถบรรทุกไฟฟ้า” “รถโดยสารไฟฟ้า” และ “เรือโดยสารไฟฟ้า” เพื่อช่วยในการลดการปล่อยมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อมที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน
โดยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่ผลิตได้ในระยะเริ่มต้น ขนาด 1 กิกะวัตต์ หรือ 1,000,000 กิโลวัตต์ สามารถนำมาใช้ในรถโดยสารไฟฟ้า ขนาด 11 เมตร ซึ่งขับเคลื่อนได้ระยะทางสูงสุด 240 กิโลเมตร ได้ถึง 4,160 คันต่อปี และการใช้รถโดยสารไฟฟ้า จำนวน 4,160 คัน สามารถช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission Reduction) ประมาณ 91,709 ตันต่อปี และลดปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลได้กว่า 97,066,667 ลิตรต่อปี เมื่อเทียบกับรถโดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันดีเซล
------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1