ผู้ถือหุ้น บมจ.วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ อนุมัติ ปันผลงวดปี 2564 ในอัตรา 0.015 บาทต่อหุ้น เตรียมจ่ายวันที่ 18 พ.ค.นี้ “ชุติภา กลิ่นสุวรรณ” สั่งเรือเพิ่ม 1 ลำ รองรับให้บริการขนส่งต่างประเทศเพิ่ม พร้อมย้ำผู้ถือหุ้นใช้สิทธิแปลงสภาพ VL-W1 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 27 เม.ย.นี้
นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) หรือ VL เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ จ่ายปันผลสำหรับปี 2564 ในอัตรา 0.015 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น 14.5 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 นี้ สะท้อนศักยภาพการเติบโต ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตด้านผลการดำเนินงานของบริษัทฯในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 มีรายได้รวม 670 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.60 จากปีก่อน มีกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท
สำหรับแผนในปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้นำการส่งออกรายใหญ่ของโลกขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ เร่งขยายแผนการให้บริการในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับความต้องการ เนื่องจากเส้นทางของประเทศดังกล่าว เป็นเส้นทางหลักของการขนส่งของ “VL” ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯให้บริการขนส่งทางทะเลในต่างประเทศ อาทิ น้ำมันปาล์ม น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันปิโตรเลียม
พร้อมกันนี้ ยังเตรียมขยายกองเรือเพิ่ม จำนวน 1 ลำ น้ำหนักบรรทุกไม่ต่ำกว่า 10,000 เดตเวตตัน (DWT) ภายใต้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยเรือดังกล่าวบริษัทฯ คาดว่าจะนำเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการให้สูงขึ้น ซึ่งสอดรับกับนโยบายบริษัทฯในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากกองเรือดังกล่าวสามารถเข้ามาตามระยะเวลาที่กำหนด ก็สามารถดำเนินการให้บริการในเชิงพาณิชย์ได้ทันที ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการให้บริการเรือดังกล่าว โดยเฉลี่ยเข้ามาในปี 2565 ประมาณ 90 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อน ให้เป้าหมายการเติบโตของของรายได้ในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 25 % เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้รวม 670 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่ VL ฝากไปยังผู้ถือหุ้นว่า การใช้สิทธิแปลงสภาพครั้งที่ 2 จะครบกำหนดระยะเวลาในวันที่ 27 เมษายนนี้แล้ว โดยบริษัทฯ ได้เตรียมเปิดให้ผู้ถือหน่วยแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ VL-W1 ได้ระหว่างวันที่ 20-26 เมษายนนี้ ที่อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยวอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นสามัญ ในราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ 0.50 บาท/หุ้น โดยเงินที่ได้รับจากการใช้สิทธิแปลงสภาพบริษัทฯจะนำไปขยายการลงทุนสำหรับการขยายกองเรือ เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถของบริษัทฯ