โบรกเกอร์ มองหุ้นไทยยังผันผวน คาดดัชนีจะแกว่งตัวกรอบ 1,630 - 1,650 จุด ต้องติดตามการประชุมเฟด เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นปัจจัยกดดันภาวะตลาด แนะ 2 หุ้นเด่น  PTTEP-SNNP

นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดดัชนีจะแกว่งตัวกรอบ 1,630 - 1,650 จุด แม้จะได้แรงหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นตามสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-รัสเซีย ประเด็นยูเครน รวมถึงเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนในหุ้นปัจจันพื้นฐานที่ดี 

อย่างไรก็ตาม ควรระวังแรงขายลดความเสี่ยง เพื่อติดตามการประชุม FED เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะกดดันต่อภาวะตลาด

กลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำให้เลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้น กลุ่มธนาคาร เช่น  BBL KBANK KTB BLA  

กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง เช่น PTTEP TOP PTTGC IVL SPRC 

กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมติครม. ที่อนุมัติโครงการ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 และเปิดลงทะเบียน Test&Go เช่น AOT MINT CENTEL ERW AAV 
 
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้

PTTEP ราคาเป้าหมาย 156 บาท ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ ด้านแนวโน้มงบไตรมาส 4/64 คาดมีกำไรสุทธิ 9.2 พันล้านบาททรงตัวทรงตัวเพื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นกว่า 263%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 

SNNP ราคาเป้าหมาย 20 บาท ได้ปัจจัยบวกจาก มติ ปปส. เห็นชอบปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด โดยที่ SNNP มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชง กัญชา ประกอบด้วยขนมขาไก่ Lotus เปิดตัวไปแล้วในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาและเตรียมเปิดตัวอีก 2 ผลิตภัณฑ์ในเดือน ม.ค. และ ก.พ. นี้

สำหรับประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาวันนี้

(-) ดาวโจนส์ยังผวนกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยและสถานการตึงเครียดในยูเครน: ในช่วงแรกของการซื้อขายดัชนีดาวโจนส์ร่วงแรงกว่า 800 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังขายลดความเสี่ยงก่อน FED Meeting (25-26 ม.ค.) รวมถึงลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน อย่างไรก็ตามท้ายตลาดดัชนีฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับ US Bond yield ที่กลับมาฟื้นตัว

(+) น้ำมันดิบพุ่งแรงกว่า 2 ดอลลาร์ กังวลสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนกระทบซัพพลายน้ำมัน: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 85.60 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนกลับเข้าซื้อเก็งกำไรในราคาน้ำมันดิบเนื่องจากกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนจะทำให้ซัพพลายพลังงานของโลกลดลงโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเนื่องจากรัสเซียทำการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปโดยเฉพาะเยอรมนีผ่านท่อก๊าซนอร์ดสตรีม 2

(-) IMF มองลบปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปีนี้เป็น 4.4% จากเดิม 4.9%: IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ซึ่งมีมุมมองเป็นลบโดยปรับลด GDP โลกในปีนี้เป็น 4.4% จากเดิม 4.9% จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ในปี 2023 ขึ้นเป็น 3.8% จากเดิม 3.6%  ส่วนเศรษฐกิจไทย IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือ 4.1% จากเดิม 4.5%