บล.กรุงศรี มองตลาดหุ้นแกว่งตัวขึ้นสลับลง หลังสหรัฐโชว์ GDP ไตรมาส 4/64 ขยายตัวดีเกินคาด แต่ตลาดผวาจะยิ่งเร่งให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย คงต้องติดตามดัชนีเงินเฟ้อของสหรัฐประกาศคืนนี้ กดดัชนีดาวโจนส์ที่พุ่งขึ้นช่วงต้นตลาด กลับต้องอ่อนตัวลงท้ายตลาด สัญญาณฟันด์โฟลทคงยังผันผวน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้น คาด SET ปรับขึ้นแนวต้าน 1,642 / 1,650 จุด แนะเล่นหุ้นรายตัวมีข่าวหนุน

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (28 ม.ค.) บล.กรุงศรี ประเมินว่า SET ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,642 / 1,650 จุด ตอบรับ sentiment บวกจากตัวเลข อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 4/64 (Q4/64)  ของสหรัฐขยายตัวดีเกินคาดโดย +6.9% ประกอบกับแรงหนุนราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงและแรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2564 

อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะสลับอ่อนตัวจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.ส่งผลให้ Fund flow ผันผวน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ดาวโจนส์ยังผันผวนกลัวเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลัง GDP ไตรมาส 4/64 ออกมาดีเกินคาด: ในช่วงแรกดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 500 จุด ขานรับตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ของสหรัฐที่ขยายตัว 6.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.5% และเมื่อรวมทั้งปี GDP สหรัฐ ปี 2564 ขยายตัว 5.7% สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1,984 อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายดัชนีปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาด จะผลักดันให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

(-) น้ำมัน WTI ปิดลบ 74 เซนต์ หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น: ล่าสุดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐหรือ Dollar Index เพิ่มขึ้นแตะระดับ 97 จุด แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 17 เดือน เป็นผลจาก 1) เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 2) เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวดีเกินคาด และ 3) เหตุการณ์ตึงเครียดในยูเครน หนุนให้นักลงทุนเข้าถือครองเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น เพราะเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์จะกระทบกับราคาน้ำมันดิบ (เคลื่อนไหวสวนทางกัน)

(+/-) คืนนี้ติดตามดัชนี  PCE Price Index ของสหรัฐเพื่อติดตามทิศทางเงินเฟ้อ: โดยดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ( PCE Price Index) เป็นอีกหนึ่ง Indicator หลักที่เฟดใช้เป็นตัวแทนเงินเฟ้อในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นดัชนีดังกล่าวจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังพุ่งสูงจนต้องกังวลหรือไม่ ตรงกันข้ามหากดัชนีดังกล่าวเริ่มปรับลง จะเป็น Sentiment บวกช่วยคลายกังวลให้กับตลาด

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้น ได้แก่   BBL KBANK KTB BLA   

อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง หนุนหุ้น PTTEP TOP PTTGC IVL SPRC

ครม.อนุมัติเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 และเปิดลงทะเบียน Test&Go  ส่งผลบวกต่อหุ้น AOT MINT CENTEL ERW AAV 

หุ้นแนะนำวันนี้

TU (ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท) คาดมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/64 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อนหน้า (qoq)  และ 45% (yoy)  ค่าเงินบาทอ่อนค่าหนุนราคาขายและปริมาณขายเพิ่มขึ้น แนวโน้มปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง และยังมี Sentiment บวกจากการนำบริษัทลูก (i-Tail) ในธุรกิจอาหารสัตว์เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น คาด IPO ในช่วงไตรมาส 3/22

SPRC (ราคาเป้าหมาย 12บาท) ราคาลดลงมากเกินไป เราคาดว่าเหตุการณ์น้ำมันรั่วไม่กระทบการดำเนินงาน มีสินค้าคงคลังรองรับการผลิตได้อีก 30 วัน ด้านความเสียหายมีประกันครอบคลุมไว้อยู่แล้ว อาทิ ประกันความเสียหายต่อทรัพย์สิน การหยุดชะงักของธุรกิจ การขนส่งสินค้าทางทะเล และความรับผิดต่อบุคคลภายนอก