หุ้นไทยวันนี้ ยังคงเกาะติดความตึงเครียดสงครามในยูเครน ลุ้นผลเจรจารอบสองกับรัสเซียในคืนนี้ บล.กรุงศรีประเมินว่า SET แกว่งตัว 1,685 - 1,705 จุด ราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้ว เป็นบวกต่อแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและซื้อหุ้นมีข่าวหนุน ดันดัชนีมีรีบบาวด์
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ( 2 ม๊.ค. ) บล.กรุงศรีประเมินว่า SET แกว่งตัว 1,685 - 1,705 จุด ตามความตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซียที่ยืดเยื้อและยังหาข้อตกลงร่วมกันไม่ได้ ส่งผลให้ VIX index (ดัชนีความผันผวน) พุ่งขึ้นซึ่งเป็นลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยแทน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน รวมถึงแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวจะช่วยหนุนดัชนีให้รีบาวด์ขึ้น ขณะที่เมื่อวานนี้ ตต่างชาติซื้อสุทธิอีก 4 พันล้านบาท หนุนหุ้น Big Cap ในกลุ่มสื่อสาร ค้าปลีก โรงพยาบาล และกลุ่มถ่านหินปรับขึ้นนำตลาด
สำหรับกลางสัปดาห์นี้ ยังต้องติดตามช่วงวันที่ 2-3 มี.ค. ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงการณ์นโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) หุ้นสหรัฐและยุโรปร่วงแรง รัสเซียโจมตียูเครนหนักหลังการเจรจาหยุดยิงครั้งแรกล้มเหลว: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 598 จุด (-1.76%) ปิดที่ระดับ 33,295 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นในยุโรปลดลงเฉลี่ย 3-4% กังวลสงครามในยูเครนรุนแรงและบานปลายหลังรัสเซียโจมตียูเครนมากขึ้นหลังเจรจาหยุดยิงครั้งแรกล้มเหลว ส่วนหนึ่งเพื่อกดดันให้ยูเครนยอมรับข้อตกลงสำหรับการเจรจาครั้งที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในคืนวันนี้
(+) กลุ่มน้ำมัน - ได้ผลบวกราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล : ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งแรงกว่า 7.69 ดอลลาร์ (+8%) ปิดที่ 103.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กังวลเหตุการณ์สงครามกระทบอุปทานพลังงานของโลก แม้ล่าสุดสหรัฐจะระบายคลังน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์มากถึง 60 ล้านบาร์เรล แต่นักลงทุนกับมองว่าการเร่งระบายน้ำมันดิบของสหรัฐในครั้งนี้กำลังบ่งชี้ถึงภาวะวิกฤติของซัพพลายพลังงานที่รุนแรงมากขึ้น
(+/-) วันนี้ติดตาม ประธานเฟดแถลงนโยบายรอบครึ่งปีและ OPEC+ meeting: โดยนายเจอโรม พาวเวล จะแถลงนโยบายรอบครึ่งปีต่อรัฐสภาฯ สหรัฐในวันนี้ เช่นเดียวกับ OPEC+ meeting ที่จะมีขึ้นในคืนวันนี้เช่นกันเบื้องต้นคาดคำกล่าวของประธานเฟดน่าจะออกมาในโทนเป็นบวกขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วน OPEC+ ตลาดส่วนใหญ่คาดว่าจะคงเพิ่มปริมาณการผลิตที่ระดับ 400,000 บาร์เรลต่อวันตามเดิม
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- หุ้น PTTEP PTT TOP SPRC BCP BANPU AGE ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบ ค่าการกลั่น และราคาถ่านหิน ทรงตัวระดับสูง
- หุ้น HMPRO MAKRO CPALL CRC CPN รับอานิสงส์เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวขึ้น
- หุ้นในกลุ่ม Defensive stock แนะนำ BDMS INTUCH ADVANC DTAC
หุ้นแนะนำวันนี้
- PTTEP (ราคาเป้าหมาย 156 บาท) ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งทะลุระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเหตุการณ์ในยูเครนยังตึงเครียดเป็น Sentiment บวกต่อการลงทุนในกลุ่มธุรกิจน้ำมันโดยเฉพาะ PTTEP ซึ่งมีสูตรราคาเป็น Oil link
- BANPU (แนะนำซื้อ/ราคาเป้าหมาย 14 บาท) ได้ Sentiment บวกล่าสุดราคาถ่านหินพุ่งทะลุระดับ 300 ดอลลาร์/ตัน ไปปิดที่ระดับ 313 ดอลลาร์/ตัน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ราคาของ BANPU ยัง Laggard ค่อนข้างมากหากเทียบกับราคาหุ้นลูก (ITMG) ในอินโดฯ โดย YTD ราคา ITMG เพิ่มขึ้น 40% แต่ราคาหุ้น BANPU เพิ่มขึ้นเพียง 6.6% เท่านั้น