JAS ราคาร้อน นักลงทุนแห่เก็งกำไรข่าว บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ ยอมยุติข้อพิพาททางคดี ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 4,000 ล้านบาท ดันราคาพุ่ง 0.14 บาท ขยับมาปิดที่ 3.48 บาท 

หุ้น JAS หรือ จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) วันนี้ ราคาร้อนแรง โดยเฉพาะช่วงบ่ายมีแรงไล่ซื้อเข้ามาจำนวนมาก เก็งกำไรข่าว บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ ยอมยุติข้อพิพาททางคดี ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 4,000 ล้านบาท ดันราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง โดยระหว่างวันขยับขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 3.54 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 3.48 บาท บวกขึ้นมา 0.14 บาท หรือ 4.19% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 1,777.63 ล้านบาท ติดอันดับ 1 ใน 5 หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน  

ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ ได้ออกหนังสือ แจ้งสมาชิกว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะเกี้ยเซี้ย ยอมความกัน โดยจะให้ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ ยอมจ่ายเงินค่าส่วนแบ่งที่ค้างจ่ายรวมดอกเบี้ยประมาณ 4 พันล้านบาท

หลังจากเมื่อวันที่ 18 ม.ค.2565 บริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่น มายื่นหนังสือกับ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ กรณีข้อพิพาทเป็นคดีในศาลปกครอง เกี่ยวกับการแบ่งส่วนแบ่งรายได้ จากสัมปทานร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ โดยขอไกล่เกลี่ยยุติคดีพิพาทในชั้นศาล ถ้าบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ ยอมจ่ายส่วนแบ่งรายได้ คิดเป็นเงินต้น 2,517.74 ล้านบาท และดอกเบี้ยผิดนัดชำระอีก 1,500 ล้านบาท รวม 4,017 ล้านบาท

สำหรับต้นเหตุของข้อพิพาท มาจากการลงนามในสัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ และบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 20 ปี ระหว่างองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ในขณะนั้นกับบริษัทจัสมินฯ เมื่อปี 2534 แบบ BTO และแบ่งส่วนแบ่งรายได้ จากการใช้โครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำที่สร้างขึ้น โดยใช้สูตรคำนวณตามปริมาณทราฟฟิคที่ใช้งานจริง ต่อมา ทีโอที ในขณะนั้นได้สร้างเครื่องมือวัดปริมาณการใช้ทราฟฟิคจริง และต้องการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามปริมาณที่ใช้จริง เพราะหลังจากที่มีเครื่องมือวัดที่โอที จึงทราบว่า ที่โอที มีการใช้งานของโครงายเคเบิ้ลใต้น้ำน้อยมาก ที่ผ่านมา ทีโอที ได้จ่ายส่วนแบ่งค่าสัมปทานตามสูตรไปนั้น เป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าต้นทุนที่แท้จริงของการใช้งานของโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำจริง เป็นจำนวนที่สูงมาก หากยังคงจ่ายค่าสัมปทานตามสูตรเหมือนเดิม แต่บริษัทฯ ไม่ยอม จึงเกิดเป็นข้อพิพาทขึ้นมา โดยบริษัทนำเรื่องฟ้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ ในปี 2557