Market

หุ้นไทยขาดปัจจัยหนุน บวก1.50จุด  KEX บิ๊กล็อตโผล่52ล้านหุ้น มูลค่าเฉียด 2 พันล้าน
12 พ.ย 2564

หุ้นไทยวันสุดสัปดาห์เคลื่อนไหวแคบๆ บวก 1.50 จุด  ปิดที่ 1,633.94 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิแค่ 0.81 ล้านบาท หุ้นเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ถูกขายหนัก บิ๊กล็อตโผล่ 52 ล้านหุ้นมูลค่าเกือบ 2 พันล้าน 


ตลาดหุ้นไทยวันส่งท้ายสัปดาห์ เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพราะยังขาดปัจจัยใหม่เข่้ามากระตุ้น โดยระหว่างวันขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1,640.66 จุด และอ่อนตัวลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 1,632.88 จุด ก่อนจะมาปิดตลาดที่ระดับ 1,633.94 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด หรือ 0.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70,359.34 ล้านบาท

 

ขณะที่วันนี้ บัญชีโบรกเกอร์ เป็นฝ่ายซื้อสุทธิมากถึง 1,427.27 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 1,271.02 ล้านบาท สถาบัน ขายสุทธิ 157.07 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิเพียงแค่ 0.81 ล้านบาท

 

โดยวันนี้ หุ้น KEX หรือ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ยังคงถูกกระหน่ำขายเข้ามา ฉุดราคาไหลลงไป 1.50 บาท หรือ 3.95% มาปิดที่ 36.50 บาท ระหว่างวันพบบิ๊กล็อตเข้ามามากถึง 52 ล้านหุ้น ที่ราคา 38 บาท มูลค่ากว่า 1,990 ล้านบาท เหตุเพราะผลประกอบการไตรมาส 3 หายไปเยอะมาก กำไรหดเหลือแค่ 12.83 ล้านบาท ลดลงถึง 95.6%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 292.09 ล้านบาท 

 

ส่วน TCC หรือ ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น  วันนี้ดีดีตัวขึ้นแรง พุ่งชนเพดาน มาปิดที่ 1.48 บาท บวกขึ้นมา 0.34 บาท หรือ 29.82 % มาพร้อมมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นถึง 637.64 ล้านบาท  รับข่าวดีกำไรไตรมาส 3 โตทะลัก  32.76 ล้านบาท เมื่อเทียบกับขาดทุนในช่วงเดียวกันปีก่อน 2.96 ล้านบาท จากการขายถ่านหินเพิ่มขึ้นกว่า 227%
       

สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก คือ

 

KBANK    ปิดที่ 148 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย  3,141.68 ล้านบาท
BAM    ปิดที่ 20.30    บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท มูลค่าซื้อขาย  2,715.26 ล้านบาท    
CPALL    ปิดที่ 65.25 บาท  ไม่เปลี่ยนแปลง  มูลค่าซื้อขาย 1,648.02 ล้านบาท
KCE    ปิดที่ 90.75    บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,410.47 ล้านบาท
PTT    ปิดที่ 37.50    บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,295.83 ล้านบาท

 

นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เก็งกำไรหุ้นผลประกอบการงวดไตรมาส 3/64 ทำให้ดัชนี มีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ไม่ชัดเจน 

 

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนียังมีโอกาสปรับขึ้นได้ หลังสิ้นสุดการประกาศผลประกอบการแล้ว โดยให้ติดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ งวดไตรมาส 3/64 ของไทยที่จะออกมาในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ และติดตาม GDP งวดไตรมาส 3/64 ของญี่ปุ่น รวมถึงติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรด้วยว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหรือไม่ และจะมีการช่วยเหลือราคาสินค้าเกษตรอย่างไร

 

----------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com