Market

`การบินไทย‘ มั่นใจปีนี้ท้อปฟอร์ม ลุยเพิ่มฝูงบิน รุกขยายตลาดจีนทั้งเพิ่มเที่ยวบินและเพิ่มเมืองใหม่ ลั่นรายได้วิ่งเข้าเป้าปีนี้ ผู้ถือหุ้นลุ้นเงินปันผล
25 ส.ค. 2568

“การบินไทย” เครื่องติด!!  กลยุทธ์ Network Airline หนุนยอดขายตั๋วเพิ่ม ลุยเพิ่มฝูงบิน เดินหน้าขยายตลาดจีน 8 เมืองทั้งเพิ่มเที่ยวบินและเพิ่มเมืองใหม่ มั่นใจรายได้วิ่งเข้าเป้าปีนี้ หลังผลงานครึ่งปีแรกโชว์ท้อปฟอร์ม ผู้ถือหุ้นรอลุ้นเงินปันผล!!

 

ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  หรือหุ้น THAI เปิดเผยว่า หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบริษัทออกมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยเฉพาะตัวเลข Profit Margin ซึ่งสูงถึง 22.7% เป็นผลจากการใช้กลยุทธ์ Network Airline ที่ดึงพันธบัตรสายการบินเชื่อมต่อเส้นทางการเดินทางโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ในปีที่แล้ว ทำให้มีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการบริหารจัดการชั่วโมงการใช้เครื่องบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การบินไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น  และแนวโน้มในครึ่งปีหลังยังมั่นใจว่าผลประกอบการยังสามารถเติบโตได้ดีต่อเนื่อง เนื่องจากเห็นสัญญาณที่ดียอดจองตั๋วล่วงหน้าเข้ามา และจากแผนการเดินหน้าเพิ่มเที่ยวบินในจีนและอินเดียรวมถึงการเพิ่มเครื่องบิน ส่งผลให้ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีกว่าครึ่งปีแรก

 

โดยปีนี้และปีหน้า แผนการเพิ่มเครื่องบินเป็นการเพิ่มกำลังการใช้งานที่รองรับทั้งเส้นทางบินระยะสั้นและระยะยาวโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเซีย  ซึ่งจะเน้นเพิ่มฝูงบินแบบลำตัวแคบมากกว่าลำตัวกว้าง โดยปลายปีนี้จะมีการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A321 NEO (ลำตัวแคบ) ทั้งหมด 17 ลำ ซึ่งจะทะยอยรับมอบเข้ามาเริ่มจากเดือนกันยายนนี้มี 1 ลำ และในปลายปีนี้อีก 1 ลำ และในปี 2569 การบินไทยจะรับมอบ 15 ลำ  สำหรับเครื่องโบอิ้ง 787-9 (ลำตัวกว้าง) เครื่องเช่าปีนี้จะเข้ามา 1 ลำ ทำให้ปีนี้มีเครื่องบินเพิ่มเข้ามารวม 3 ลำ ส่งผลให้สิ้นปี 2569 จะมีเครื่องบินเข้ามาประจำฝูงบินเพิ่มอีก 18 ลำ  ทั้งนี้ปัจจุบ้น การบินไทยมีเครื่องบินจำนวนรวม 78 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินลำตัวกว้างจำนวน 58 ลำ และเครื่องบินลำตัวแคบจำนวน 20 ลำ 

 

การเพิ่มเครื่องบินข้างต้น หลักๆรองรับการเพิ่มเที่ยวบินในประเทศจีนเริ่มช่วงฤดูหนาว (Winter) ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2568 - มี.ค. 2569 โดยการบินไทยจะเพิ่มความถี่เที่ยวบินเมืองปักกิ่งและกวางโจว จากปัจจุบัน 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 14 เที่ยวบิน/สัปดาห์ . เมืองเซียเหมิน , ฉงชิง , ฉางชา จะกลับมาทำการบินใหม่มีจำนวน 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ , เปิดใหม่ 2 เมือง อู่ฮั่นและเซินเจิ้น  7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ทั้งนี้ปัจจุบัน การบินไทยมีเที่ยวบิน 5 เส้นทางในจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว เฉิงตู และคุนหมิง จำนวนบินรวม 42 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ซึ่งคาดว่าการพิ่มความถี่เที่ยวการกลับมาบิน 8 เมืองในจีน จะทำให้รายได้จากตลาดจีนเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเป็น 10%จากเดิมมี 5%ของรายได้รวม  นอกจากนี้ การบินไทยจะบินเพิ่มในอีก ได้แก่ เมืองคยา (อินเดีย) และเสียมราฐ(กัมพูชา)
 

โดยในช่วงไตรมาส 3 นี้ ก็ยังเป็นช่วงโลว์ซีชั่น แต่ปีนี้ เดือนกรกฎาคมจนถึงสิงหาคม มีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (cabin factor) อยู่ระดับ 70% ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ Network Airline ที่มีความต้องการเดินทางของนักธุรกิจอยู่ ขณะที่นักท่องเที่ยวลดลง  ส่วนไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮชีซั่นของทุกปีอยู่แล้ว ยังเฉลี่ยสูง 90%

 

“ปกติ ไตรมาสที่ 2 ของทุกปีเป็นช่วงโลว์ซีชั่นและจะขาดทุน แต่ไตรมาส 2 ปีนี้ แม้จะเป็นโลว์ชีชั่น แต่ก็กลยุทธ์ Network Airline ที่ทำให้ยอดขายตั๋วเพิ่มขึ้นมาได้ โดยยอดขายตั๋วผ่าน Network มีสัดส่วน 20% จากก่อนหน้านี้ 10% แต่อย่างไรก็ตาม การบินไทยยังให้ความสำคัญกับการขายตั๋ว point to point ที่ทำมาร์จิ้นดีกว่า โดยภาพรวมของไตรมาส 2 ทำกำไรจากการดำเนินงานได้ดี 6-7 พันล้านบาท ถือว่าสูงมาก ทำให้ครึ่งปีแรกกำไรออกมาดี ผมเชื่อมั่นว่าปีนี้จะเติบโตต่อ ทั้งปีนี้ การบินไทยจะทำได้ตามเป้าหมาย (รายได้รวม 1.9 แสนล้านบาท) และมีแนวโน้มครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ถ้าผลประกอบการดี คาดผู้ถือหุ้นก็จะได้เงินปันผลจากผลประกอบการของปีนี้ได้” 
 

สำหรับแผนการจัดหาเครื่องบินโบอิ้ง 787  จำนวน 45 ลำ จะทะยอยรับมอบตั้งแต่ปี 2571 ลอตแรก 9 ลำ ซึ่งจะให้บริการเส้นทางที่มีปริมาณการเดินทางสูงอย่าง อินเดีย ฮ่องกงและจีน และเส้นทางในประเทศที่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางโดยเฉพาะภูเก็ต สำหรับการจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติม จำนวน 35 ลำ ที่ได้ทำไว้กับโบอิ้ง โดยขณะนี้ การบินไทยได้ยืนยันสิทธิบางส่วน โดยเลือกเครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 787-10  ซึ่งการใช้สิทธิจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมดังกล่าวเพื่อขยายขีดความสามารถทางการแข่งขัน อีกทั้งปัจจุบันการจัดหาเครื่องบินต้องใช้เวลานาน จึงได้เริ่มดำเนินการทันที ทั้งนี้คาดว่าจะสรุปได้ชัดเจนในเดือน ก.ย.นี้ และจะต้องนำเสนอคณะกรรมการฯต่อไป ซึ่งน่าจะเข้ามาภายในกลางปี 69

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com