แนวโน้มตลาดวันนี้ (26 พ.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดแกว่งขึ้น อานิสงส์จากความคาดหวัง Fed ลดดอกเบี้ยใน ธ.ค. ที่เพิ่มขึ้น กด Bond Yield ลดลง น่าจะทำให้เม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตามหุ้นพลังงานต้นน้ำอาจได้รับแรงกดดันตามราคาน้ำมันที่ร่วงลง สำหรับประเด็นติดตามวันนี้จับตาดัชนี PCE ของสหรัฐฯ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยชัดเจนขึ้น ทางเทคนิคหากดัชนียังยืนเหนือเส้น 200 วันได้ จะเป็นสัญญาณบวกในการปรับขึ้นต่อ แนวรับ 1260/1250 แนวต้าน 1280/1285
ประเด็นสำคัญ
• GISTDA เผยน้ำท่วมภาคใต้กระทบพื้นที่ 334,895 ไร่ใน 7 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่ม ชุมชนที่อยู่อาศัย และเส้นทางคมนาคม และมีระดับน้ำท่วมลึก 1.0-2.5 เมตร เป็น Sentiment เชิงบวกต่ออุปสงค์สินค้าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังน้ำลด เลือก HMPRO GLOBAL
• ยอดผลิตรถยนต์ใน ต.ค. 2568 ฟื้นตัว 14.2%YoY และ 5.9%MoM สู่ 135,685 คัน จากการเร่งผลิตเพื่อส่งออกและขายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะในกลุ่มรถกระบะ แต่ ส.อ.ท. ประเมินหากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยืดเยื้อเกิน 1 สัปดาห์ อาจกระทบยอดขายกระบะในประเทศ
• จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อนที่ 691,388 คน เพิ่มขึ้น 0.28%WoW หนุนจากกลุ่ม นทท. ระยะใกล้ แต่กดดันจากกลุ่ม มาเลเซียที่ชะลอจากเหตุน้ำท่วมภาคใต้ ลดลง 11.5% WoW ส่วนจำนวน นทท. ต่างชาติสะสมทั้งปี 2568 ที่28,968,664 คน ลดลง 7.2%YoY
• มูลค่าการส่งออกไทยใน ต.ค. 2568 ขยายตัว 5.7%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้และชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ 19%YoY กดดันจากกลุ่มสินค้าเกษตรที่หดตัว 14.6%YoY และช่วง 10M68 ขยายตัว 13%YoY ส่วนมูลค่าการนำเข้าขยายตัว 16.3%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ และช่วง 10M68 ขยายตัว 12.4%YoY
• ที่ประชุม ครม. วานนี้เห็นชอบหลายประเด็น เช่น กรอบงบฯ ปี 2570 ที่ 3.78 ล้านลบ. ขาดดุล 7.8 แสนลบ., มาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง-ม่วง 40 บาทตลอดวัน, มาตรการลดหย่อนภาษิติดตั้ง Solar Rooftop ไม่เกิน 2 แสนบาท, การเปิดประชุมสภาฯ ในวันที่ 10-11 ธ.ค. 2568 เพื่อแก้ รธน. แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าการพิจารณาโครงการ BOI Fast Pass คาดจะถูกพิจารณาในสัปดาห์ถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1240-1300 จุด หลังตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความคืบหน้าการเจรจาภาษีไทย-สหรัฐฯ, ดุลการค้า ต.ค., ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ต.ค. และ ครม. เศรษฐกิจพิจารณามาตรการช่วยเหลือสภาพคล่องผู้ประกอบการ SMEs และมาตรการส่งเสริมการลงทุนเร่งด่วน (BOI Fast Pass) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนี PCE และ PPI ก.ย., GDP 3Q68 (รายงานครั้งที่ 2) ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
Daily Top Picks
AP: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากแผนทยอยเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ากว่า 2 หมื่นลบ. ใน 4Q68 และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง กำไรสุทธิ 4Q68 คาดจะทำจุดสูงสุดของปี ฟื้นตัว QoQ แต่ทรงตัว YoY หนุนจาก Backlog ที่แข็งแกร่งจากโครงการแนวราบและการเริ่มโอนคอนโดโครงการใหม่ Aspire วิภา-วิคตอรี เป้าหมายระยะสั้น 8.85 บาท
OR: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาน้ำมันที่ปรับลง ยังคงมีมุมมองบวกต่อแผนการเติบโตต่อเนื่องและการมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ส่วน 4Q68 คาดกำไรจะฟื้นตัว QoQ แรงหนุนจากการท่องเที่ยวช่วงปลายปี อุปสงค์ตามฤดูกาล และการขยายสาขาในกลุ่มธุรกิจ Lifestyle อย่างต่อเนื่อง ราคาเป้าหมายระยะสั้น 13.60 บาท