 |
 |
 |
|
|
|
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Clubhoon พาไปรู้จัก "ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN)" ว่าที่หุ้นเทคฯ น้องใหม่ไฟแรง ที่จะเข้าไปเคาะซื้อขายในตลาดหลัก เอ็ม เอ ไอ (mai) กันไปแล้ว วันนี้จะชวนไปเจาะลึกในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า บริษัทนี้ทำธุรกิจอะไร มีความโดดเด่นยังไง และมีเป้าหมายหลังระดมทุนอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามกันได้เลย...
ถ้าพูดถึงบริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ต้องบอกเลยว่า เขาคือ ผู้นำ Low-Code ซอฟต์แวร์ของไทยตัวจริงเสียงจริงมากว่า 15 ปี จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 14 ส.ค.2551 โดย "ปนายุ ศิริกระจ่างศรี", "นริศรา ลิ้มธนากุล", "เทอดพงษ์ หงษ์หิรัญเรือง" และ "ธิปัตย์ สุนทรารชุน" ดำเนินธุรกิจให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบดิจิทัลแบบครบวงจร, ให้คำปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและพัฒนาโซลูชันตามความต้องการของลูกค้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ MENDIX รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ Low-Code Development Platform (LCDP) ที่ช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันหรืองานดิจิทัลโซลูชันเร็วขึ้น 6-10 เท่า เทียบกับการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบดั้งเดิม หรือ High Code
TBN เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ Low-Code รายแรกที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปีในประเทศไทย มีทีมงานที่เชี่ยวชาญในด้านการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน หรือการนำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสร้างมูลค่าให้กับองค์กร
แล้วลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ MENDIX คืออะไร ซึ่ง MENDIX เป็น Platform ของ Siemens Limited (Siemens) ที่ช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Non-Developer) สามารถสร้างแอปพลิเคชันโดยใช้ Graphic User Interface (การเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาพ) แบบ Drag and Drop ที่แตกต่างจากวิธีการเขียนโค้ดแบบ High Code ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาที่ไม่มีเทคนิคเฉพาะทาง หรือมีประสบการณ์เขียนโค้ดเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเลย สามารถทำงานร่วมกับผู้เขียนโค้ดได้ตั้งแต่การระดมความคิด การพัฒนา การติดตั้ง และการใช้งานจริง จึงเป็นการช่วยลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรและลดระยะเวลาในการพัฒนาให้สั้นลง และที่สำคัญที่สุดคือ เพิ่มความรวดเร็วในการออกสินค้าสู่ตลาด เพื่อทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล
ซึ่งผลงานที่ผ่านมา ของบริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ลูกค้าใช้ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ MENDIX ส่วนใหญ่เป็นองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มสถาบันการเงิน, ประกันภัย, ค้าปลีก-ค้าส่ง เป็นต้น โดยลูกค้ารายสำคัญประกอบด้วย บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC), บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) และ บริษัท ซีพีเอฟ ไอทีเซ็นเตอร์ จำกัด ฯลฯ
สำหรับผลงานสำคัญที่ผ่านมาของบริษัทช่วงปี 63-65 ประกอบด้วย
บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีข้อได้เปรียบทางธุรกิจ 4 ข้อ ดังนี้
1.เป็นตัวแทนจำหน่าย MENDIX License รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ซึ่งการเป็นพันธมิตรกับบริษัทระดับโลกอย่าง Siemens บริษัทฯ ได้รับการสนันสนุนเพื่อผลักดันการใช้ MENDIX ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าถึงศักยภาพและความสามารถของบริษัทฯ ที่สามารถส่งมอบงานได้ในระดับมาตรฐานระดับสากล
2.ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาซอฟต์แวร์มากกว่า 15 ปี และมีผลงานในอดีตที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าพิจารณาใช้บริการ
3.นำเสนอบริการได้ทั้ง Low Code และ High Code รายแรกในประเทศไทย ทำให้ได้เปรียบในเชิงกลยุทธ์กว่าบริษัทที่พัฒนาได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้บริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความรวดเร็วในการพัฒนา การปรับรูปแบบได้ตามความต้องการ ภายใต้กรอบเวลา งบประมาณ และเงื่อนไขที่ลูกค้ากำหนด
4.ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยที่ผ่านมาส่งมอบได้งานที่มีศักยภาพได้ตรงตามเป้าหมายและเวลาที่กำหนดไว้ จึงได้รับความเชื่อมั่นกลับมาใช้บริการซ้ำและแนะนำลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติมให้บริษัทอีกด้วย
TBN มีวิสัยทัศน์ คือ มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Low Code และ AI-Driven และสร้าง Digital Transformation เพื่อยกระดับธุรกิจคู่ค้า ให้ไปสู่ระดับภูมิภาค โดยมีเป้าหมายดังนี้
1.ขยายตลาดการให้บริการการพัฒนาแอปพลิเคชันของบริษัทฯ และขยายขอบเขตการขายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ (License) ไปสู่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมการผลิต และ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย
2.สร้าง Platform Solution สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิเช่น อุตสาหกรรมการเงินและการประกันภัย
3.จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม TBN MENDIX ACADEMY สำหรับ ลูกค้า นักศึกษามหาวิทยาลัย และพนักงานภายใน เพื่อเป็นศูนย์กลางการอบรม MENDIX และเพื่อตอบรับความต้องการนักพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีความชำนาญการใช้ MENDIX รวมทั้งส่งเสริมแบรนด์ MENDIX ให้เป็นที่รู้จัก และเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานผ่านการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ และหน่วยงานรัฐบาล
4.ให้บริการ MENDIX สำหรับสถาบันการเงิน การธนาคาร ธุรกิจประกันภัย และอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากเทคโนโลยีในยุคนี้เปลี่ยนแปลงด้วยความรวดเร็ว MENDIX จะมาช่วยตอบโจทย์ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ รวมทั้ง บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญใน MENDIX และอุตสาหกรรมเชิงลึก จึงสามารถสร้างฐานลูกค้าใหม่ได้ รวมถึงการเพิ่มยอดขายในลูกค้าเก่าได้
5.เป็น Gold Partner ของบริษัท Siemens รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับ MENDIX
6.นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำ Digital Transformation เพื่อสร้างแอปพลิเคชันและโซลูชันที่ตอบโจทย์
ส่วนแนวโน้มรายได้ ยังมีโอกาสเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดย ณ 30 ก.ย.65 บริษัทมีงานในมือที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (Backlog) รวม 312.19 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้ส่งมอบและยังไม่รับรู้รายได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
