PACO เผยไตรมาส 2/65 มีรายได้รวม 234.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 28.7 ล้านบาท โตจากไตรมาส 1 ถึง 68% ลุยขยายธุรกิจ OEM & REM คาดตลาดรถยนต์ EV บูม รับอานิสงค์ต่อ มั่นใจตลาดรถยนต์โลกยังคงฟื้นตัวดี หนุนรายได้เติบโต 

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO ผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ของไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/65 มีรายได้รวม 234.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29 % จากรายได้รวม 181 ล้านบาทในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 28.7 ล้าน เพิ่มขึ้น 68% จากกำไรสุทธิ 16.9 ล้านบาท ในไตรมาสก่อน 

ซึ่งรายได้ และกำไรเติบโตดีขึ้นตามอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยและทั่วโลกที่กลับมาขยายตัว ตามสภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัวและกลับสู่การเติบโตอีกครั้ง

สำหรับงบการเงิน 6 เดือนแรกปี 2565 PACO มีรายได้รวม 415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.3 % จากรายได้รวม 369.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกปี 2564 โดยมีกำไรขั้นต้น 67.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 45.6 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 60 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากต้นทุนสูงขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสแรก

สำหรับครึ่งปีหลัง PACO มุ่งมั่นที่จะขยายทั้งตลาดส่งออก และตลาดในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวได้เติบโตจากครึ่งปีแรก โดยเตรียมขยายตลาดส่งออก ในตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และอาเซียน ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ดี เนื่องจากธุรกิจ REM หรือ อะไหล่ทดแทน จะได้ประโยชน์จากสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อรถใหม่ อีกทั้ง ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์คลี่คลายลงอย่างมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถส่งออกเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ในครึ่งปีหลังอีกด้วย 

ส่วนในประเทศ PACO จะขยายเครือข่ายร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub (พาโก้ ออโต้ ฮับ) โดยตั้งเป้ามีร้าน PACO Auto Hub จำนวน 300 สาขาภายในปีนี้ 

ทั้งนี้ จากนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็น 1 ในศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV Hub) ของเอเชีย PACO เชื่อมั่นว่า บริษัทฯจะได้รับประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว เนื่องจาก PACO เป็นผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ (OEM Manufacturer) ที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี และมีประสบการณ์ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า คือ  Battery cooler และ ชิ้นส่วนแอร์รถยนต์สำหรับรถไฟฟ้า แบบ BEV (Battery EV) และ PHEV (Plug-in Hybrid) ในรูปแบบอะไหล่ทดแทน (REM) เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ