Market

SCC ไตรมาส 3 กำไรทรุด 30% โบรกฯ ส่อง Q4 ฟื้นดันทั้งปีโต 40% ลุ้นปันผล 8.50บ.
10 พ.ย 2564

บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย ไตรมาส 3 กำไรทรุด 30% พิษล็อกดาวน์โควิด ปิดแคมป์ฉุดยอดขายซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างร่วง  ส่วน 9 เดือนกำไรเติบโตเกือบ 50% ทำรายได้จากยอดขายตุนช่วงครึ่งปีแรก  และส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และรับกำไรบริษัทร่วมเพิ่ม   บล.เมย์แบงก์ คาด Q 4 กำไรฟื้นตัว 1-1.1หมื่นล้าน ดันทั้งปีกำไรรวม 4.8 หมื่นล้านบาท โตกว่า 40% ลุ้นปันผลครึ่งปีหลัง 8.50 บาท

 

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2564  มีกำไรสุทธิ 6,817 ล้านบาท ลดลง 30%จากช่วงเดียวกันปีก่อน 30% (YoY) และลดลง 60% จากไตรมาส 2 ก่อนหน้า (QoQ)   ส่วนงวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 38,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% YoY

 

ทั้งนี้ ไตรมาส 3 SCG มีรายได้จากการขาย 131,825 ล้านบาท ลดลง 1%จากไตรมาสก่อนหน้า จากผลกระทบมาตรการ ล็อกดาวน์จากการระบาดระลอกใหม่ของโควิดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มีการปิดแคมป์  กระทบต่อยอดขายซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างลดลง รวมถึงมีรายการสำคัญจากผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของโรงงานซีเมนต์ในประเทศเมียนมา และกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนเป็นมูลค่ายุติธรรม

 

อย่างไรก็ตาม EBITDA จากการดำเนินงานปกติที่ไม่รวมรายการสำคัญข้างต้น  ในไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 16,806 ล้านบาท ลดลง 48% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเงินปันผลรับที่ลดลง และกำไรจากการดำเนินงานปกติจะเท่ากับ 9,066 ล้านบาท หรือลดลง 47% จากยอดขาย 2 ผลิตภัณฑ์ที่ลดลง แต่ยังมีธุรกิจเคมิคอลส์ที่สามารถบริหารจัดการช่องทางการขาย ทำให้ปริมาณการขาย Polyolefin ในไตรมาสที่ 3 สูงที่สุด ช่วยประคองผลดำเนินงานไตรมาสนี้

 

โดยภาพรวมของรายได้ในช่วง 9 เดือน เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 387,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA เท่ากับ 70,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปี ก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์ที่ดีขึ้น กำไรสำหรับงวด 38,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  หลักๆเป็นผลจากส่วนต่างราคาของสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

 

ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเทศไทย วิเคราะห์แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 นี้จะฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดในภูมิภาคอาเซียนที่ดีขึ้น และมีการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ดีมานด์กลับมาดี แต่ผู้บริหารยังกังวลด้านต้นทุนNaphtha และถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น  ทั้งนี้ ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ จะเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นทั้งสามธุรกิจ คือ 1.) ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และเริ่มมีการปรับราคาขายขึ้น จึงได้ประมาณการไตรมาส 4 นี้ ทำกำไร 1-1.1 หมื่นล้านบาท และทั้งปี’64 กำไรรวม 48,867 ล้านบาท เติบโต 43% ส่วนระยะยาว SCC เข้าสู่เฟสของการเติบโตโดยมีแรงหนุนจากทั้ง  3 ธุรกิจ และคาดปันผลครึ่งปีหลังอีก 8.50 บาท รวมทั้งปีอยุ่ที่ 17 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.3% คงแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 520 บาท บนฐานเฉลี่ย 10 ปี Forward P/E = 12.9 เท่า

 

บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ให้คำแนะนำ “ถือ” ในระยะสั้น  โดยให้ราคาเป้าหมาย 448 บาท หลังจากที่ราคาหุ้น SCC ปรับลดลง 3% ในรอบสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่ง Underperform SET และกลุ่มฯ แม้แนวโน้มก าไร 4Q64F จะฟื้นตัว QoQ จากธุรกิจซีเมนต์ฯ แต่กำไรยังคงไม่โดดเด่นในเชิง YoY คาดว่าต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 2 ปี 2565  เนื่องจากฐานเปรียบเทียบที่สูง รวมถึงเผชิญแรงขายจากต่างชาติต่อเนื่อง ทั้งนี้ หุ้น SCC จะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งเมื่อเมื่อมีความเคลื่อนไหวของบริษัท SCG Chemicals ที่ชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกปี 2565  ซึ่งจะเป็นปัจจัยหุนนราคาหุ้น SCC เหมือนกับกรณีการทำ IPO หุ้น SCGP เมื่อปี 2563

 

นอกจากนี้ ยังมีอีก 3 โบรกเกอร์ แนะนำ “ซื้อ”  SCC  โดย บล. CGS ให้ราคาเป้าหมาย 445 บาท ,บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมาย 420 บาท และบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมาย 530 บาท

 

-----------

ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่


Facebook : Clubhoon


Website : www.Clubhoon.com


Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com