SE กางแผนปี 2566 ชูกลยุทธ์พร้อมปรับตัว ยืดหยุ่น รับมือทุกสถานการณ์ เพิ่มไลน์โปรดักส์-บริการ ขยายฐานลูกค้าพลังงานสะอาดพลังงานหมุนเวียน เล็งจับมือพันธมิตรโตก้าวกระโดด ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับงานบริการโซลูชั่น บริหารจัดการต้นทุนต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้โต 15-20% รักษาอัตรากำไรขั้นต้น 27% พร้อมรับรู้กำไรบริษัทร่วมทุนทั้ง UBA และ Kessel
นายเกริก ลีเกษม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SE เปิดเผย ว่า ทิศทางธุรกิจปี 2566 บริษัทมุ่งมั่นก้าวสู่ผู้ให้บริการโซลูชั่นครบวงจร พัฒนากลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งภาพรวมภาคอุตสาหกรรมในปีนี้แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ภาครัฐและเอกชนมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) ที่มีมูลค่าการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์, เคมีภัณฑ์ปิโตรเคมี และ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีสัดส่วนมากที่สุด 3 อันดับแรกของ SE ด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมเริ่มทยอยลงทุนเพิ่มขึ้น ทั้งการซ่อมบำรุง การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่ อีกทั้งกฎหมายบังคับเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้นอาทิการลดคาร์บอนไดออกไซด์ การบริหารจัดการระบบน้ำ การควบคุมอุณหภูมิ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจึงถือเป็นโอกาสในการเติบโตของบริษัททั้งสิ้น บริษัทพร้อมเดินหน้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชนอย่างต่อเนื่อง บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2566 เติบโตประมาณ 15-20% รักษาอัตรากำไรขั้นต้น 27%
ทั้งนี้ บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 ประมาณ 202.30 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 146.30 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบ 56 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทวางแผนจับมือพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดการเติบโต เน้นการทำ Merger and Acquisition (M&A), Joint Venture (JV) และหาโอกาสใหม่ๆ ทางด้านความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ ปัจจุบัน SE มีบริษัทร่วมทุนและบริษัทในเครือ3 บริษัท ได้แก่ บริษัท โอเคเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด วางแผนลงทุนเกี่ยวกับ Start up, Internet of Things, สิ่งแวดล้อม, พลังงาน บริษัท เคสเซล (ประเทศไทย) จำกัด วางแผนขยายตลาดการจัดจำหน่าย และให้บริการติดตั้ง ท่อ วาล์ว หรือ อุปกรณ์อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษและเป็นตัวแทนจําหน่ายรายเดียวในประเทศไทย และบริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ UBA ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากการประมูลงานเพิ่มของทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน ส่งผลให้ SE รับรู้กำไรเพิ่ม รวมถึงมีโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเช่นกัน
โดยปีนี้บริษัทเน้นกลยุทธ์พร้อมปรับตัว (Adaptability) และยืดหยุ่น (Flexibility) เพื่อรับมือทุกสถานการณ์ เนื่องจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อยกระดับงานบริการ (Services Solutions) ก่อให้เกิดการลดต้นทุนการผลิต การบริหารจัดการสินค้าคงคลังและบำรุงรักษาเชิงป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงเพิ่มความสามารถ ส่งเสริมให้ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมมีโอกาสทำกำไรได้สูงขึ้น
ทั้งนี้ การดำเนินงานในส่วนของธุรกิจหลักบริษัทวางแผนการเติบโต โดยการจัดหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการซื้อซ้ำ ทั้งสินค้าและบริการ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม มีการปรับเปลี่ยนและซ่อมบำรุงอยู่สม่ำเสมออาทิ ท่อ ปั๊ม วัสดุนวัตกรรมต่างๆ รวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อาทิพลังงานสะอาด ที่นำมาหมุนเวียนใช้ในโรงงาน ซึ่งครอบคลุมความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นับเป็นโอกาสในการรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ในอนาคต
“SE เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นที่ตอบสนองความต้องการเพื่อพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม ให้เกิดการลดต้นทุนการผลิตและบำรุงรักษาเชิงป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการประเมินผล วัดผลให้แม่นยำเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย โดยใช้ข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบความสำเร็จ “ นายเกริก กล่าว