บล.เอเซียพลัส (ASP) มองว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 ต.ค.) SET Index เคลื่อนไหวในกรอบแคบทิศทางขาขึ้นมากกว่าขาลง โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1,650 – 1.658 จุด ASPS คาดว่า ตลาดหุ้นไทยจะได้รับ Sentiment บวกจากปัจจัยต่างประเทศที่เกิดขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นแรงหนุนหลัก 3 ประเด็น1 ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วันและต่อเนื่องในวันศุกร์ (เช้านี้ 8.00 น. ดัชนี Dow Jones Futures บวกราว 25 จุด) โดยมีปัจจัยหนุนจากเรื่องผลประกอบการของกลุ่มแบงก์สหรัฐ ออกมาดีกว่าคาด อาทิ Glodman Sach , ยอดค้าปลีกสหรัฐ เดือนก.ย. ออกมา 0.7% ดีกว่าคาดการณ์ และคาดว่าจะลดลง 0.2%
2 เงินบาทในช่วงสั้นชะลอการอ่อนค่า หรือแกว่งตัวในทิศทางแข็งค่าได้ ล่าสุดอยู่ที่ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ แม้ช่วงสั้นมีโอกาสแข็งค่ามาที่แนวรับสำคัญ 33.00 บาท ผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า ซึ่งเป็นบวกต่อเงินทุนไหลเข้า แต่ระยะกลาง-ยาว คาดเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า (ทางเทคนิค มีโอกาสผ่าน 34 บาท/ดอลลาร์) ในทางพื้นฐาน คาดประเด็นเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ตลาดหุ้นโลกจะให้น้ำหนักมากขึ้น ล่าสุดปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลสำรวจจาก Bloomberg มีมุมมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐครั้งแรกเร็วขึ้น คือ Dot plot ของ FED รอบล่าสุดคาดปรับขึ้นในปี 2565 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือน มิ.ย. 2565 (คาด ณ 17 ต.ค.2564) สะท้อนผ่าน Bond Yields สหรัฐอายุ 2 ปี (15 ต.ค. 2565) ปรับเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุด บ่งชี้ตลาดมองดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐเป็นขาขึ้น และคาดหนุน Bond Yields ไทยปรับขึ้นสอดคล้องกัน แม้ดอกเบี้ยไทยคาดว่าจะยังไม่ขึ้นในปี 2565 โดยรวม ASPS ประเมินเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ KBANK SCB กลุ่มประกันชีวิต อาทิ BLA
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยได้ดูดซับเรื่อง FED ไปแล้ว จึงเป็นแรงกดดันต่อราคาหุ้นมีน้ำหนักเบาลง
3 ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ยังปรับขึ้นต่อ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้น ล่าสุดแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี อิงน้ำมัน Brent เหนือ 85 เหรียญสหรัฐ เป็นผลบวกต่อหุ้น PTTEP แนะ“ซื้อ” ราคาเหมาะสม 144 บาทท ,PTT แนะ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 48.50 บาท ถือเป็นแรงส่งต่อการเคลื่อนไหวของ SET Index หลักๆมาจากกลุ่มพลังงานที่มีมาร์เกตแคปรวมสัดส่วน 25%ของทั้งตลาด
ปัจจัยในประเทศ สถานการณ์โควิด ปัจจุบันเริ่มอยู่ในภาวะทรงตัวโดยผู้ติดเชื้อใหม่และผู้รักษาหายอยู่ระดับใกล้เคียงกันประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน แต่ความสนใจไปอยู่เรื่องการเปิดประเทศ ซึ่งในมุมเศรษฐกิจ น่าจะเป็นผลดีเฉพาะในอุตสาหกรรมที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจที่รีสตาร์ท และกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมที่รัฐบาลกำลังจะเร่งประกาศออกมา
หุ้น Top Pick แนะนำเลือก CPALL ราคาเหมาะสม 70.50 บาท ,CPN ราคาเหมาะสม 61 บาท และ MTC ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 72 บาท