LHFG โชว์กำไรครึ่งปี 1.1 พันล. โต 25% ดันสินเชื่อโต 3.4% รุก SME–ลูกค้ารายย่อย หนุนพอร์ตโตยั่งยืน
กลุ่มธุรกิจการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เผยผลงานครึ่งปีแรก 2568 ฟันกำไรสุทธิพุ่งแตะ 1,121 ล้านบาท โตแรง 25.8% สินเชื่อขยายตัว 3.4% ขานรับกลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย–SME
นายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล ประธานกลุ่มงานการเงินและบัญชี บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวในกรอบ 1.3–2.3% ตามการประเมินของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
โดยมีแรงหนุนหลักจากการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้นตามกรอบงบประมาณรายจ่ายลงทุน และการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นในช่วงต้นปีก่อนที่มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะเริ่มมีผล
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนยังคงชะลอลงตามภาคการผลิตที่อ่อนแรง ประกอบกับปัจจัยลบสะสมหลายด้าน ทั้งหนี้ครัวเรือนและหนี้ธุรกิจในระดับสูง ความไม่แน่นอนของนโยบายกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังยืดเยื้อ
LHFG โกยกำไร 1,121 ล้าน โตแรง 25.8% ยืนหนึ่ง ESG ต่อเนื่องปีที่ 10
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิรวม 1,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 25.8% และมีสินทรัพย์รวม 361,287 ล้านบาท เติบโต 17.3% สะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง
นายวรวุฒน์ กล่าวว่า กลุ่มฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และยั่งยืน คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ โดยในปีนี้ บริษัทได้รับเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ให้เป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่โดดเด่นด้าน ESG ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10
และได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO) และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ประจำปี 2567 จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ด้วยการชดเชยคาร์บอนเครดิตถึง 3,998 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
LH Bank กำไรโต 30% หนุนสินเชื่อ SME–รายย่อย ลูกค้ารายใหม่เพิ่ม 13%
นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรกของธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.3% จากปีก่อน โดยสินเชื่อรวมเติบโต 3.4% จากสิ้นปี 2567 โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อยที่เติบโตถึง 9.3% และสินเชื่อธุรกิจขยายตัว 1.8%
ธนาคารยังคงเดินหน้ารุกสินเชื่อ SME ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม (Product Program) ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อ SME ขยายตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้ารายย่อยยังขยายตัวถึง 13% หนุนโดยความสำเร็จของผลิตภัณฑ์เงินฝากดิจิทัล “B-You Max” และการเติบโตของธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management)
ด้านคุณภาพสินทรัพย์ LH Bank ยังคงควบคุมได้ดี โดยมีอัตรา NPL อยู่ที่ 2.59% ขณะที่ Coverage Ratio อยู่ที่ 173% และอัตราเงินกองทุน Tier 1 และ BIS Ratio อยู่ที่ 15.73% และ 17.81% ตามลำดับ
ครึ่งปีหลังลุย Family Banking–ปล่อยกู้สีเขียว หนุนสินเชื่อคาร์บอนต่ำ
สำหรับกลยุทธ์ครึ่งหลังของปี 2568 LH Bank จะยังคงมุ่งขยายสินเชื่อ SME ต่อเนื่อง พร้อมให้บริการธุรกรรมดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม “LHB Biz Connect” รองรับธุรกรรมทั้งเงินบาทและเงินตราต่างประเทศ โดยลูกค้ารายย่อยยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ โดยธนาคารเตรียมเร่งขยายพอร์ตสินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีคุณภาพ
พร้อมกันนี้ ธนาคารยังพัฒนาเทคโนโลยี AI และแอปพลิเคชัน เพื่อยกระดับบริการ และเปิดตัวโครงการ “Family Banking” มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้า Wealth รองรับการเติบโตระยะยาวของกลุ่มลูกค้ารุ่นถัดไป ภายใต้นโยบาย Sustainable Banking
ธนาคารยังคงสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) และสินเชื่อเปลี่ยนผ่าน (Transition Finance) สำหรับธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนผ่านสู่คาร์บอนต่ำ พร้อมทั้งดำเนินโครงการช่วยเหลือลูกค้าผ่านมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ต่อเนื่อง
LH Fund เร่งโต AUM แตะ 6.6 หมื่นล้าน ขยายพอร์ต HNW–องค์กร
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) เปิดเผยว่า ณ ครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) รวม 66,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากสิ้นปีก่อน แบ่งเป็นกองทุนรวม กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุน กองทุนส่วนบุคคล (13,093 ล้านบาท) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (9,596 ล้านบาท)
กลยุทธ์ครึ่งปีหลัง มุ่งเสริมความสามารถของทีมบริหารจัดการให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนในทุกประเภทสินทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่ม HNW ลูกค้าสถาบัน และองค์กร โดยเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคล และขยายฐานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านการเจาะตลาดบริษัทที่ยังไม่มีการจัดตั้งกองทุน
LH Securities กำไรชะลอ รับภาวะหุ้นไทยดิ่งหนัก เน้นรายได้ประจำ–บริการใหม่
นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในครึ่งแรกของปี 2568 เผชิญแรงกดดันหลายด้านทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงกว่า 22.2% ปิดไตรมาส 2 ที่ระดับ 1,089.56 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพียง 41,856 ล้านบาท
จากภาวะดังกล่าวส่งผลให้รายได้ค่านายหน้าในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 40.2 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน โดยบริษัทหันมาเน้นกลยุทธ์สร้างรายได้ประจำ (Passive Income) จากเงินปันผล ค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่าย และที่ปรึกษาทางการเงิน
พร้อมกันนี้ บริษัทเร่งพัฒนาบริการใหม่ เช่น การซื้อขายหุ้นต่างประเทศ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริการ สร้างความผูกพันกับลูกค้าเดิม พร้อมเดินหน้าบริหารต้นทุนอย่างรัดกุมและเหมาะสมต่อไป