NER ตั้งเป้ารายได้ปี 65 กว่า 2.9 หมื่นล้าน พร้อมทุ่มงบลงทุน 240 ล้านบาท พัฒนาและวิจัย เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ให้ข้อมูลใน กิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day)ว่า มั่นใจรายได้ปี 2564 จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 24,500 ล้านบาท และปี 2565 คาดว่าจะโตขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 29,280 ล้านบาท คิดเป็นยอดขายประมาณ 5 แสนตัน แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจยางธรรมชาติ 28,780 ล้านบาท และธุรกิจแผ่นปูนอนปศุสัตว์ 500 ล้านบาท
โดยในปีหน้าจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มอีก 50,000 ตัน โดยจะเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 1/2565 เพื่อรองรับความต้องการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งให้มียอดกำลังผลิตรวมจากปัจจุบัน 4.6 แสนตัน ขยับมาอยู่ที่ 5.1 แสนตันต่อปี
ปัจจุบันบริษัทมียอดคำสั่งซื้อล่วงหน้าถึงเดือน มี.ค.-เม.ย. ส่วนแนวโน้มราคายางธรรมชาติในปี 2565 คาดว่ายังอยู่ในระดับที่สูง และมีแนวโน้มปรับขึ้น จากปีนี้คาดว่าราคาจะเฉลี่ยอยู่ประมาณ 65-67 บาทต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ หากปัญหาขาดแคลนชิปในรถยนต์เริ่มคลี่คลายลง บริษัทคาดว่ายอดขายรถยนต์ทั่วโลก จะมีทิศทางที่ดีเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทมีฐานลูกค้าอยู่ 26 รายทั่วโลก ส่วนลูกค้าใหม่ที่อินเดีย มีแนวโน้มเติบโตที่ดี หลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงก่อน คาดว่ายอดขายที่ประเทศอินเดียจะเพิ่มเป็น 5% ของยอดขายรวม
ขณะเดียวกันธุรกิจแผ่นปูนอนปศุสัตว์จะเริ่มผลิตได้ในเดือน ก.พ.2565 บริษัทมีแผน 3 เฟส ในปี 2565-2566 ในเฟสแรก บริษัทจะเริ่มแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายใน 13 ประเทศ เฟสที่สองจะแต่งตั้งตัวแทนเพิ่มอีก 7 ประเทศ และเฟสสุดท้ายแต่งตั้งตัวแทนอีก 9 ประเทศ โดยคาดว่าปริมาณขายปี 2565-2567 อยู่ที่ 280,500 แผ่น , 565,000 แผ่น และ 675,600 แผ่น ตามลำดับ และมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 503.92 ล้านบาท , 1,017.25 ล้านบาท และ 1,217.22 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 240 ล้านบาท ลงทุนในโครงการ Solar Rooftop ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโรงงาน ทดแทนการซื้อไฟฟ้า กำลังผลิต 9 เมกกะวัตต์ และใช้ลงทุนในการพัฒนาและวิจัย หรือ R&D ธุรกิจปลายน้ำ ประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนอีก 40 ล้าน ลงทุนติดตั้งหุ่นยนต์อัจฉริยะในโรงงาน เพื่อลดต้นทุนการใช้แรงงานคน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
--------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1