บมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ มั่นใจผลงานไตรมาส 4 ทำนิวไฮต่อเนื่อง ดันรายได้ปีนี้ทะลุ 3 พันล้าน เพิ่มขึ้นกว่า 100% อานิสงส์ปริมาณการขนส่งและค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์พุ่งกระฉูด บวกกับช่วงไฮซีซั่นของสินค้าอีคอมเมิร์ซ   ส่งซิกกำไรออลไทม์ไฮแน่หลังเห็นไตรมาส 3 โกยได้กว่า 100%จากปีที่แล้ว ชี้ปีหน้ายังได้ผลบวกจาก 2 พันธมิตร “ไชน่าโพสต์-ไปรษณีย์ไทย” เตรียมลุยให้บริการขนส่งสินค้ารถไฟความเร็วสูงลาว-จีน คาดชัดเจนโค้งท้ายปีนี้ พร้อมปิดดีลซื้อธุรกิจโลจิสติกส์ชัดเจนก่อนสิ้นปี’64 
 

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกัน 4 ไตรมาส โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณการขนส่ง และค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง  รวมทั้งในไตรมาส 4 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการขนส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากมีเทศกาล sale ของ E-Commerce Platform ทั่วโลก ทั้งเทศกาล 10/10 ,11/11 และ Black Friday รวมถึงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณการขนส่งสินค้า E-Commerce แบบ Cross Border ของบริษัทฯมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้-กำไร เติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2565  

โดยในช่วงไตรมาส 4/2564  บริษัทฯ มีแผนจะเปิดบริการ Soft opening LEO Self Storage สาขาที่ 2  LSS China Town ถนนเจริญกรุงใกล้กับย่านเยาวราช น่าจะราวเดือนธันวาคมนี้ โดยสาขาที่ 2 มีพื้นที่เพิ่มอีก 2,000 – 3,000 ตารางเมตร โดยบริษัทฯตั้งใจที่จะทำให้ LEO Self-Storage#2 เป็น Flagship store ให้บริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น

“แนวโน้มผลดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ารายได้ในปีนี้จะทะลุ 3 พันล้านบาท จากปีที่แล้วอยู่ที่ 1,129 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนแรก มีรายได้รวม 2.1 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 121.92 ล้านบาท มากกว่าปี 2563 ทั้งปีที่ 56.88 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์” นายเกตติวิทย์ กล่าว 

 
ส่วนความคืบหน้าการทำ M&A กับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ในประเทศไทย  คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงกับบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์เร็วๆนี้ และจะสามารถทำความตกลงได้ภายในปี 2564 และมีการทำรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ100 ล้านบาท เข้ามาในปี 2565  
 

นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาการให้บริการร่วมกับ China Post เพื่อทำหน้าที่เป็น One-Stop Service Provider ให้กับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซให้สามารถนำเข้าและส่งออกสินค้าจากประเทศจีน พร้อมกับกระจายสินค้าไปยังปลายทางทั่วโลก รวมถึงบริการใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศร่วมกับบริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ให้กับ LEO ในปี 2565 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

โดยปัจจุบัน China Post วางแผนการขนส่งทางรางด้วยรถไฟความเร็วสูง ลาว-จีน และมีแผนจะให้ไทยเป็น Logistic Hub ด้าน E-commerce ใน ASEAN  และในปี 2565 จะผลักดันการพัฒนาบริการขนส่งครบวงจร  การจัดเก็บและกระจายสินค้าภายในประเทศ พร้อมกับพัฒนาบริการสำหรับตลาดและลูกค้าในกลุ่ม E-Commerce/Social Commerce ผ่านการมอบบริการ E-fulfilment Centre ในการขนส่งสินค้าทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ