บมจ. เมืองไทย แคปปิตอล ประเมินธุรกิจไตรมาส 2 สัญญาณดี ผลงานโตเข้าเป้า ดันยอดปล่อยสินเชื่อใหม่เติบโต 30% รับอานิสงส์นโยบายเปิดประเทศ เปิดเทอม และราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น "ชูชาติ เพ็ชรอำไพ" ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังแนวโน้มดีต่อเนื่อง มั่นใจปีนี้พอร์ตสินเชื่อแตะ 1.2 แสนล้านบาท ด้านโบรกฯ แนะซื้อให้ราคาพื้นฐานสูงสุด 71 บาทต่อหุ้น

  
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ผู้นำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์ของเมืองไทย เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง ขณะที่การเปิดภาคเรียนตามปกติ และความต้องการสินเชื่อเกษตรปรับเพิ่มตามราคาพืชผลการเกษตรที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อเติบโตได้เป็นอย่างดี สะท้อนได้จากสัญญาณของการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/2565 โดยบริษัทฯมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่เติบโตระดับ 30%
 
ทำให้ภาพรวมของธุรกิจครึ่งปีแรก มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส 2/2565 มีการเติบโตสินเชื่อได้ดี เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันบริษัทฯเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ 6,475 สาขา จากเป้าหมายปี 2565 ที่ 6,500 สาขา 

สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง ประเมินว่ามีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง และมั่นใจว่าปีนี้พอร์ตสินเชื่อน่าจะปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 1.2 แสนล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ตั้งเป้ารักษาระดับ NPL ไว้ไม่เกิน 2% แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะชะลอตัว 

นอกจากนี้ บริษัทฯยังคงเป้าหมายในระยะยาว โดยภายในปี 2569 บริษัทฯยังคงเชื่อมั่นว่าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตทะลุ 2 แสนล้านบาทได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 
 
ด้านความเห็นนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ได้แนะนำซื้อหุ้น MTC ให้ราคาตามพื้นฐาน 71 บาท อิงกับ P/BV ปี นี้ที่ 5.0 เท่า เนื่องจากแผนการเติบโตของสินเชื่อจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับ 2 แสนล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า (โตเฉลี่ยปีละ 30%) ปัจจัยหนุน คือ การขยายสาขาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับสิ้นไตรมาส 1/2565 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 98.6 พันล้านบาท คาดทะลุ 1 แสนล้านบาทในสิ้นไตรมาส2/2565 

ขณะที่คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 2-4/2565 โดยไตรมาส 2 เป็นช่วงไฮซีซั่น ของธุรกิจ เพราะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ เปิดเทอม และเริ่มเพาะปลูก คาดว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้จะมากกว่าค่าใช้จ่ายและการตั้งสำรองฯที่สูงขึ้น