EXIM BANK ชี้แจงกรณีเงินกู้บริษัทลูกของ STARK เผยมีการติดตามและหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหา ด้าน ก.ล.ต. กำลังพิจารณากรณี STARK ขอเลื่อนส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็น 29 ก.ย.
ตามที่ปรากฏข่าว EXIM BANK ปล่อยกู้บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) นั้น
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ขอชี้แจงว่า EXIM BANK ได้ปล่อยกู้ให้แก่บริษัทลูกของ STARK ดังกล่าวโดยสอดคล้องกับพันธกิจของธนาคาร เพื่อสนับสนุนวงเงินนำเข้าวัตถุดิบสำหรับผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิลทั้งที่จำหน่ายในประเทศไทยเพื่อการพัฒนาประเทศและส่งออก ซึ่งที่ผ่านมาการใช้วงเงินเป็นปกติ เมื่อบริษัทแม่ประสบปัญหา ธนาคารจึงอยู่ระหว่างการติดตามและประชุมหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาต่อไป รวมทั้งธนาคารได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรองของสถาบันการเงินเฉพาะกิจครบถ้วนแล้ว
ในวันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) นำส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (extended-scope special audit) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตามที่ได้ขอขยายระยเวลาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม STARK แจ้งว่า ผลการตรวจสอบที่นำส่งมาแล้วนั้น ยังไม่แล้วเสร็จ โดยมีความคืบหน้าในแต่ละส่วนประมาณร้อยละ 50 – 75
ทั้งนี้ STARK แจ้งว่า เนื่องจาก ก.ล.ต. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบริษัทและบริษัทย่อยซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจปกติของกลุ่มบริษัท แม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะไม่ได้ทำให้กลุ่มบริษัทหยุดประกอบกิจการทั้งหมดแต่ทำให้เกิดข้อจำกัดต่าง ๆอีกหลายประการ บริษัทจึงไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบพิเศษให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ตามที่ ก.ล.ต. สั่งการได้ จึงขอขยายระยะเวลานำส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็นภายในวันที่ 29 กันยายน 2566 ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะขยายเวลาตามที่ STARK ขอมาหรือไม่ และจะแจ้งผลให้ทราบต่อไป
อนึ่ง การอายัดทรัพย์สินในกรณีนี้ ได้ดำเนินการด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการก.ล.ต. ตามมาตรา 267 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) สืบเนื่องจาก ก.ล.ต ได้กล่าวโทษบุคคล รวม 10 ราย เป็นชุดแรกต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ดำเนินคดีกรณีตกแต่งงบการเงิน เปิดเผยข้อความอันเป็นเท็จในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และกระทำโดยทุจริตหลอกลวง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง อันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ