Market

THAI 9 เดือนกำไรโป่ง 5 หมื่นล้าน ธุรกิจขาดทุนอ่วม ลุ้นคลังใส่เงินหนุนไปต่อ
15 พ.ย 2564

บมจ.การบินไทย งวด 9 เดือน กำไรโป่ง  5.1 หมื่นล้านบาท โต 100% หลักๆมาจากกำไรพิเศษอุ้ม แต่ยังขาดทุนจากดำเนินธุรกิจหนัก 4.9 หมื่นล้านบาท  “ปิยสวัสดิ์” แจงสภาพคล่องประคองได้ถึงไตรมาสแรกปีหน้า ลุ้นคลังใส่เงินใหม่เข้า 1.3 - 2.5หมี่นล้าน คาดปีหน้า EBITDA พลิกเป็นบวก

 

บมจ.การบินไทย (THAI) รายงานงบการเงิน 9 เดือนแรก ปีนี้ พลิกมีกำไรสุทธิ 5.1หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% หลังจากขาดทุน 4.95 หมื่นล้านบาท ในงวดเดียวกันปีก่อน  ซึ่งเป็นผลมาจากมีกำไรพิเศษสุทธิเข้ามาประมาณ 7.19 หมื่นล้านบาท  อย่างไรก็ตาม บริษัทยังขาดทุนจากการดำเนินงาน 2.15 หมื่นล้านบาท โดยมีรายได้รวม 1.43 หมื่นล้านบาท ลดลง 66.7%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายสูงกว่า 3.65 หมื่นล้านบาท

 

ทั้งนี้ กำไรพิเศษสุทธิ 7.19 หมื่นล้านบาท เกิดจากรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ประกอบด้วยกำไรจากการขายเงินลงทุน 2.2 พันล้านบาท ,กำไรจากขายทรัพย์สิน 628 ล้านบาท และกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 6.07 หมื่นล้านบาท  รวมถึงรายการจากการปรับปรุงผลประโยชน์พนักงานจากการปรับโครงสร้างองค์กร 8.32 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีบันทึกรายการขาดทุนต่างๆ ได้แก่ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเกิดขึ้น 11,197 ล้านบาท  การจ่ายเงินชดเชยเลิกจ้างและโครงการร่วมใจจากองค์กร จำนวนรวม 6.1 พันล้านบาท และรายการด้อยค่าจากเครื่องบินและด้อยค่าตามมาตรฐาน TFRS9 รวมเป็นจำนวนเงิน 1.85 หมื่นล้านบาท

 

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งการขึ้นเครื่องหมาย SP และ NP ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ของหุ้น THAI เนื่องจากผู้สอบบัญชีของบริษัทยังไม่ได้ข้อสรุปต่องบการเงินสิ้นสุด 30 กันยายน 2564 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานประจำงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 โดย บริษัทฯ และบริษัทย่อย ขาดทุนจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 21,491 ล้านบาท มีรายได้รวมทั้งสิ้น 14,990 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 29,230 ล้านบาท หรือ 66.1% มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 36,481 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 41,695 ล้านบาท (53.3%) เนื่องจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่แปรผันตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งลดลง ตลอดจนการดำเนินมาตรการเพื่อลดค่าใช้จ่ายตามแผนปฏิรูปธุรกิจ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้ จำนวน 73,084 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ อาทิ การปรับโครงสร้างหนี้ การขายทรัพย์สินและเงินลงทุน การปรับโครงสร้างองค์กร เป็นต้น ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ ในงวด 9 เดือนแรกของ ปี 2564 จำนวน 51,115 ล้านบาท

 

สำหรับความคืบหน้าของแผนฟื้นฟู THAI นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการอิสระ  บมจ. การบินไทย เปิดเผยว่า ส่วนความคืบหน้าของแผนการใส่เงินเพิ่มทุนตามแผนฟื้นฟู THAI เพื่อเสริมสภาพคล่องนั้น นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้แผนการเพิ่มทุนยังอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ “กระทรวงการคลัง”  ยังไม่มีการแจ้งว่าจะใช้สิทธิเพิ่มทุนส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมหรือไม่ ซึ่งจะต้องใส่เงินเข้ามาถึง 2.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่มีการพิจารณาวาระดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงการคลังไม่ใส่เงินเพิ่มทุน จะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือเพียง 8% จากปัจจุบันถือหุ้นใหญ่อันดับ 1  สัดส่วน 47% ซึ่งเมื่อรวม

 

“หากคลังไม่ใช้สิทธิหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ จะทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นลดลงเหลือ 8% เมื่อรวมกับฝั่งธนาคารออมสินและกองทุนวายุภักษ์ 1 จะมีสัดส่วนรวมกันเพียง 14-15% เท่านั้น เว้นแต่ว่าคลังจะเลือกใช้วิธีการแปลงหนี้เป็นทุน ในราคาหุ้นละ 2.54 บาท ซึ่งจะใช้เงินจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท จะทำให้สามารถรักษาสัดส่วนได้สูงสุด 25% ขณะนี้จึงรอการตัดสินใจของกระทรวงการคลังอยู่”นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

 

ในขณะเดียวกัน การบินไทยยังได้มีการเดินหน้าเจรจากับเจ้าหนี้ต่างๆ เพื่อเสนอให้แปลงหนี้เป็นทุนเช่นกัน โดยคาดหวังว่าจะได้เม็ดเงินจากส่วนนี้เข้ามาเสริมสภาพคล่องดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับทิศทางผลดำเนินงานในไตรมาส 4 ของการบินไทย มีสัญญาณการฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ จะทำให้มีรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเข้ามาจากก่อนหน้านี้มีจำนวน 300  คนต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็น 700 คนต่อวันนอกจากรายได้จากการขนส่งสินค้าที่กลับมาดีขึ้นแล้ว จึงคาดว่าไตรมาส 4 นี้จะเห็นกำไรก่อนการหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อม (EBITDA) ไม่ติดลบมากไปกว่าไตรมาส 3 ที่ผ่านมา  โดยงวด 9 เดือนแรกปีนี้ EBITDA ติดลบอยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท

 

แนวโน้มในปี 2565 การบินไทยจะมีผลดำเนินงานพลิกฟื้นชัดเจนขึ้น  โดย EBITDA พลิกเป็นบวก ซึ่งจะมาจากรายได้ขนส่งผู้โดยสารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาทและรายได้จากการขนส่งสินค้า ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาทต่อเดือน  ส่วนจะมีกำไรสุทธิหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 หากไม่มีการระบาดหนักทั่วโลกและปิดประเทศเกิดขึ้นอีก คาดว่าปีหน้าจะเห็นรายได้ทั้งปีแตะ 5.52 หมื่นล้านบาท

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป การบินไทยทำการเพิ่มเส้นทางบินและเที่ยวบิน ทั้งในส่วนของบริษัทฯ และสายการบินไทยสมายล์ ไปยัง 44 จุดหมายปลายทางหลักในประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกกว่า 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รองรับผู้โดยสารกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน ผลักดันให้รายได้จากการขนส่งผู้โดยสารกลับไปสู่ระดับ 1 แสนล้านบาทในปี 2565

 

“การบินไทยเริ่มมีสถานะการเงินที่เข้มแข็งและมั่นคง มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการดำเนินกิจการ ระหว่างการจัดหาสินเชื่อใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการในระยะต่อไปได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า  นอกจากนี้ เรายังดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการหารายได้จากการพัฒนาระบบตัวแทนจำหน่าย การบริหารช่องทางการขายตรง การลงทุนนำ IT เข้ามายกระดับความสามารถในการแข่งขันต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตด้านรายได้อย่างต่อเนื่องและทำกำไรยั่งยืนในอนาคต” นายปิยสวัสดิ์กล่าว

 

สำหรับฐานะทางการเงินของ THAI ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 163,703 ล้านบาท ลดลง 21.8%จากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 45,594 ล้านบาท (21.8%) หนี้สินรวมมีจำนวน 240,196 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 97,766 ล้านบาท (28.9%) ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ติดลบจำนวน 76,493 ล้านบาท ติดลบลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 52,172 ล้านบาท

-------------------------

ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่

Facebook : Clubhoon

Website : www.Clubhoon.com

Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com