UAC โชว์กำไรอู้ฟู่ 192 ล้านบาท โตพุ่ง 17%  โดยเฉพาะไตรมาส 3 กำไรพุ่ง 80% สวนกระแสล็อกดาวน์วิกฤตโควิด  ผู้บริหาร กางแผนไตรมาส 2  รอรับ ส่วนแบ่งรายได้จากบ.ร่วมทุน BBF และมีลุ้นปิดดีลลงทุนเพิ่มอีก 1-2 โครงการพลังงานหมุนเวียน โบรกคาดปี’4 ทำกำไร 270 ล้านบาท ให้ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท ล่าสุดราคา 5 บ.

บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) แจ้งผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2564 (สิ้นสุด 30  ก.ย. 2564) ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 1,130.78 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13.52 % เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 192.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.54% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 163.55 ล้านบาท โดยมี Gross Margin ที่ระดับ 17.31% ส่งผลให้ EBITDA งวด 9 เดือนแรกปี 2564 อยู่ที่ระดับ 322.14 ล้านบาท
ส่วนไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 420.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.32 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 276.39 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 58.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.13% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32.23 ล้านบาท

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า การเติบโตของผลดำเนินงานในงวดที่ผ่านมา หลักๆ มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรายได้ของบริษัท UAPC บริษัทย่อยในเครือ UAC Group ซึ่งทำธุรกิจด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์จำพวก Latex Emulsion  และยังมีธุรกิจเทรดดิ้งที่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย ทำให้กลุ่ม UAC มีกำไรขั้นต้นรวม 63.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนกว่า 52.71% รวมถึงการฟื้นตัวด้านวัตถุดิบของการผลิตของโรงงาน PPP ซึ่งนำไปสู่การจำหน่ายที่มากขึ้นของก๊าซเชื้อเพลิง C1 ก๊าซหุงต้ม (LPG) และก๊าซโซลีนธรรมชาติ (NGL) โดยในปัจจุบันโรงงาน PPP และโรงไฟฟ้าเสาเถียร ได้รับก๊าซธรรมชาติจาก ปตท สผ. เพิ่มขึ้นกว่า 1.2 MMSCFD

สำหรับในไตรมาส 4/2564 บริษัทฯจะมีการรับรู้ส่วนแบ่งผลกำไรจากบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ตามสัดส่วนการถือหุ้น 30% เข้ามาในอัตราหุ้นละ 125 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 105.56 ล้านบาท ซึ่งได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจำหน่ายและราคาขายเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภาคการขนส่งและภาคการเกษตร ประกอบกับความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบในช่วงที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับสูงขึ้น  
สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจนำ Business model ใหม่ เข้ามา เช่น การทำ Consulting Service พร้อมทั้งพยายามรักษาการให้บริการและฐานะลูกค้าให้ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพิจารณาการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่เป็นการลงทุนด้าน Energy Efficiency และ Bio Circular Economy ทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV 

“เร็วๆนี้ น่าจะเห็นความชัดเจนในการลงทุนเพิ่มอย่างน้อย 1-2 โครงการ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจ จะมีทั้งในส่วนของการต่อยอดการในส่วนของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และการนำ Business model ไปต่อยอดจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่เตรียมดำเนินการอยู่ในขณะนี้” นายชัชพล กล่าว  

ด้านบทวิเคราะห์ของบล.ทรีนิตี้ ประเมินแนวโน้มธุรกิจไบโอดีเซล ของ BBF เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา หลังจากหมดช่วงของผลผลิตปาลม์ออกสู่ตลาด ดังนั้น จึงคงประมาณการส่วนแบ่งรายได้ปี 2564 อยู่ที่ 240 ล้านบาท (บนสมมติฐานราคาปาล์ม5-6 บาท และCPO discount 10-15%) ส่วนปี 2565 คาดว่าราคาน้ำมันปาล์มน่าจะเริ่มปรับลดลงจาก supply ฝั่งมาเลเซียที่จะเพิ่มมากขึ้น จึงได้ทำประมาณการส่วนแบ่งรายได้ไว้ราว 180 ล้านบาท (บนสมมติฐานราคาปาล์ม 4-5 บาท/กก. และCPO discount  15%) 

ส่วนแนวโน้มธุรกิจเทรดดิ้ง มีทิศทางที่ดีขึ้นจากกลุ่มลูกค้าโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่นที่  Operating rate ที่ดี อย่างไรก็ตาม ยังคงประมาณการภาพรวมของกำไรสุทธิของ UAC ปี 2564 ไว้ที่ 270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%จากปีก่อนหน้า และคงราคาเป้าหมายหุ้น UAC ที่ 5.30 บาท/หุ้น ภายใต้ P/E 13 เท่า ส่วนความเสี่ยงจะมีเรื่องความผันผวนของค่าเงินบาท การเลื่อนประมูลโรงไฟฟ้า และสถานการณ์โควิดกับการล็อกดาวน์ ทั้งนี้ UAC ราคาปิดช่วงเช้าวันนี้ (5พ.ย. ) อยู่ที่ 5 บาท