“IMH” ไม่หวั่น หากยกเลิก UCEP COVID ชี้รพ.เป็นสมาชิก“สปสช. – ประกันสังคม” เตรียมปรับโครงสร้างกลุ่ม ตั้งเป็น Holding ขยายธุรกิจ Digital Health Platform ด้านโบรกฯมอง หุ้นเป็น Laggard - พีอีต่ำกว่ากลุ่ม ให้เป้า 28 บาท
ดร. สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH เปิดเผยว่า ปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อโควิด พุ่งเกือบ 2 หมื่นคน และมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มอย่างรวดเร็ว ส่วนจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลนั้น ยังคงมีมากต่อเนื่อง ตามปริมาณผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น และยังคงมีผู้ป่วยสะสมคงค้างอีกเป็นจำนวนมาก
โดยปัจจุบัน โรงพยาบาล ประชาพัฒน์ บริษัทลูกของ IMH ให้บริการ ตรวจรักษาดูแลและเบิกจ่ายการรักษาสิทธิฉุกเฉินวิกฤตรักษาทุกที่ (ระบบ UCEP COVID) ได้ตามปกติ เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิดแบบฉุกเฉิน
ทั้งนี้ มองว่าหากกรณี ปลดโรคโควิด-19 ออกจากระบบ UCEP COVID มาเป็นการรักษาและเบิกจ่ายตามสิทธิสุขภาพปกติ ทาง รพ. ประชาพัฒน์ ก็ยังคงสามารถเบิกค่ารักษาผู้ป่วยโควิด เหมือนกับค่ารักษาโรคอื่นๆ ตามสิทธิ์รัฐที่ผู้ป่วยมี เช่น สิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม ได้ เนื่องจาก รพ. ประชาพัฒน์ เป็นโรงพยาบาลในระบบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ประกันสังคม อยู่แล้ว จึงสามารถให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ค้างสะสม ได้อย่างต่อเนื่อง และยังให้การดูแลผู้ป่วยแบบ HI และ CI ได้ตามนโยบาย HI-CI-ATK first เมื่ออาการเปลี่ยนแปลง สามารถส่งต่อดูแลภายใน รพ. ได้ทันที
ส่วนแผนธุรกิจหลังโควิด-19 ทางกลุ่ม IMH จะเร่งขยายธุรกิจโรงพยาบาล เพื่อรองรับการเติบโต ซึ่งคาดว่าจะประกาศรายละเอียดได้ในไตรมาส 1 ปีนี้ รวมทั้งการปรับโครงสร้างบริษัทให้เป็น Holding เต็มตัวในอนาคต พร้อมเตรียมจับมือพันธมิตร ทางธุรกิจเพื่อขยายฐานการแพทย์ผ่าน Digital Health Platform ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มฐานลูกค้าให้แตะระดับ 3 ล้านคนได้ ในเร็วๆนี้
ทางด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ที่ผ่านมา IMH ได้รับอานิสงส์ จากการตรวจและรักษาโควิด-19 รวมถึงผลจากการควบรวมกิจการ แต่ปัจจุบัน หุ้น IMH ซื้อขายในระดับพี/อี เรโช ต่ำกว่ากลุ่ม จึงมองเป็น หุ้นที่ปรับตัวขึ้นช้า หรือ Laggard
ทั้งนี้ ยังไม่รวม upside จากการขยายกิจการโรงพยาบาล และ การนำ รพ. ประชาพัฒน์ เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ส่งผลให้กำไรสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จึงแนะนำซื้อ โดยให้ราคาเหมาะสม 28 บาท