"ราช กรุ๊ป" อวดงบปี 2565 เติบโตต่อเนื่อง มีรายได้รวม 81,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.4% และมีกำไรส่วนของบริษัทฯ 5,782 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียว จ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 0.80 บาท ขึ้น XD 17 มี.ค.นี้ โดยจะนำเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันที่ 24 เม.ย
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565 ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากผลกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ซึ่งเติบโตถึง 12,000 ล้านบาท บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตไฟฟ้ายังคงเป็นแหล่งรายได้หลัก ซึ่งในปี 2565 บริษัทฯ รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเรียว ในอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช ระยอง ในประเทศไทย รวมทั้งการลงทุนเพิ่มในโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน-1 อินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) ด้วย
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้ากลุ่มบริษัทฯ โดยส่วนใหญ่ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ค่อนข้างดี แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลก อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารทางการเงินให้ต้นทุนอยู่ในระดับเหมาะสมและการจัดหาเงินทุนให้เพียงพอและทันการณ์กับการขยายการลงทุนของบริษัทฯ
ปัจจุบันสถานะทางการเงินของบริษัทฯ จัดอยู่ในระดับที่มั่นคงและแข็งแกร่ง ในปี 2565 สินทรัพย์รวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 229,578.28 ล้านบาท มีอัตราส่วนสภาพคล่อง อยู่ที่ระดับ 1.90 เท่า และหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 1.14 เท่า ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นให้มีความยั่งยืน
โดยในปีนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จัดสรรเงินปันผลจ่ายแก่ผู้ถือหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งหลังของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท
กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 20 มีนาคม 2566 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 17 มีนาคม 2566 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ซึ่งบริษัทฯ จะได้นำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 24 เมษายน ศกนี้
อนึ่ง เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 (งวดเดือนมกราคม - มิถุนายน 2565) แล้ว จำนวนหุ้นละ 0.80 บาท และเมื่อรวมกับงวดครึ่งปีหลัง เท่ากับจ่ายเงินปันรวมทั้งปี หุ้นละ 1.60 บาท