บมจ.อัลฟ่า ทุ่ม 201 ล้าน ลุยลงทุนลิสซิ่งลาว "มหทุน โฮลดิ้ง" บอร์ดอนุมัติเพิ่มทุน 108.90 ล้านหุ้น ใช้แลกหุ้นกับผู้ขาย "บ. บี ริช โฮลดิ้ง" ได้สิทธิถือหุ้นใหญ่ "มหทุนฯ" สัดส่วน 76.78 % ซีอีโอ"ธีร ชุติวราภรณ์" แตกไลน์ธุรกิจใหม่ หนุนบริษัทมีรายได้กำไรโตโลด ปีนี้ตั้งเป้ารายได้พุ่ง 200% จาก 3 ธุรกิจ "อสังหาฯ - กัญชง-กัญชา และลิสซิ่ง" มั่นใจอนาคตสดใส สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
ดิวิชั่นส์ ลุยธุรกิจใหม่ "มหทุน โฮลดิ้ง " ทำลีสซิ่งมอเตอร์ไซด์ในสปป.ลาว มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยบอร์ดอนุมัติเพิ่มทุน 108.90 ล้านหุ้น จัดสรรขายแบบ PP ให้แก่ "บ. บี ริช โฮลดิ้ง" ผู้ขายหุ้น "มหทุนฯ" เพื่อแลกถือหุ้นใหญ่ใน "มหทุนฯ" สัดส่วน 76.78 % มูลค่าดีล 201 ล้านบาท ซีอีโอ"ธีร ชุติวราภรณ์" ระบุการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ หนุนบริษัทมีรายได้กำไรโตก้าวกระโดด ปีนี้ตั้งเป้ารายได้พุ่ง 200% รับรู้รายได้จาก 3 ธุรกิจเติบโต อสังหาริมทรัพย์, กัญชง-กัญชา และไฟแนนซ์ ดันอนาคตสดใส สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALPHAX หรือเดิมคือ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2565 มีมติอนุมัติการเข้าทำการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท มหทุน โฮลดิ้ง จำกัด (“MHTH”) รวม 7,677,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ในราคาซื้อขายประมาณหุ้นละ 26.240964 บาท หรือสัดส่วนร้อยละ 76.78 ของทุนจดทะเบียนของ MHTH จากบริษัท บี ริช โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยมูลค่าการเข้าทำรายการรวมเท่ากับ 201,465,000 บาท โดยวิธีการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer : EBT) ภายหลังการทำธุรกรรมดังกล่าว MHTH จะถือเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และบริษัทฯจะถือหุ้นในสัดส่วน 76.78%
บริษัทฯจะชำระค่าหุ้นสามัญของ MHTH โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ให้แก่ผู้ขาย แทนการชำระด้วยเงินสด จำนวนไม่เกิน 108,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.85 บาท คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 201,465,000 บาท (หรืออีกนัยหนึ่งคือ การแลกหุ้น 2 บริษัทนี้กัน (Share Swap) โดยคิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยนหุ้นเท่ากับ 1 หุ้นของ MHTH ต่อ 14.184305 หุ้นใหม่ของบริษัท
ขั้นตอนต่อไปจะขออนุมัติในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 4 มี.ค. 2565 ซึ่งอัลฟ่าจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่ 4 ก.พ. 2565 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 27,225,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 452,418,389.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 479,643,389.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 108,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด ได้แก่ บริษัท บี ริช โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับหุ้นสามัญของ MHTH โดยวิธีการแลกหุ้น
"การเข้าลงทุนในครั้งนี้เป็นการแตกไลน์ก้าวเข้าสู่ธุรกิจไฟแนนซ์ หลังจากเข้าไปลงทุนในบริษัท MHTH จะทำให้ ALPHAX กลายบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และยังมีฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว ซึ่งมีความสามารถในการทำกำไรสุทธิในระดับสูง จะช่วยสนับสนุน ALPHAX มีรายได้ และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด" นายธีร์ กล่าว
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 200% โดยจะมุ่งเน้นพัฒนาทั้ง 3 ธุรกิจ โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เตรียมจะเปิดตัวโครงการที่เน้นไปทางแนวราบ และโครงการอาคารสำนักงานเพื่อเช่า คาดว่าในปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 4-5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยยังคงมองหาที่ดินที่สามารถพัฒนาโครงการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้จริงๆ เช่น บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในพื้นที่นอกเมือง คาดว่าจะรับรู้รายได้จากโครงการไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท
"เทรนด์อสังหาฯไปต่อได้ โครงการที่เราทำจะเน้นให้ตอบโจทย์ลูกค้าราย segment ทำให้มียอดโอนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และปีที่แล้วที่ลูกค้่าเราที่รับโอนไปแล้ว ก็ยังเป็นกลุ่มลูกค้ามีคุณภาพ เพราะไม่มีปัญหา post finance กันเลย" นายธีร์กล่าว
ขณะที่ ธุรกิจกัญชง-กัญชา คาดว่าจะได้ใบอนุญาตการสกัดภายในไตรมาส 1/2565 และจะเร่งเปิดตัวลูกค้าที่เป็นพันธมิตร เพื่อเร่งวิจัยและพัฒนาสารสกัดให้พร้อมสำหรับเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่เป็น Production scale ซึ่งที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง โดยจะเป็นการสกัดสารกัญชากัญชงออกมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับการผลิตเครื่องสำอางค์ เครื่องดื่ม ยาสมุนไพรต่างๆ
"ตอนนี้เรามีเครื่องจักรก 2 เครื่อง ตั้งแล้วอยู่ที่ลำพูน หากได้ใบอนุญาตมา จะสามารถดำเนินงานได้ โดยมีกำลังการผลิตฟีดกัญชาได้เดือนละ 300 กิโลกรัม รวมถึงการฟีดดอกกัญชงสกัดสารออกมาด้วย ซึ่งแผนต่อไปเราจะจับมือกับพันธมิตรอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเครื่องดิ่ม เครื่องสำอางค์ อาหารเสริม ยาสมุนไพร หลังเปิดโรงงานจะเปิดรายชื่อพันธมิตรต่อไป ธุรกิจนี้จะทำให้อัลฟ่าเติบโตอย่างยั่งยืน เรานิยามตัวเองเป็นผู้คุมปัจจัยต้นน้ำ มีพันธมิตรหลายราย เช่น ไทยรับเบอร์ ซันสวีท และวิสาหกิจชุมชน ซึ่งจะทำให้เราสามารถผลิตเพื่อส่งออกได้ในอนาคตด้วย เพราะปัจจุบันหลายประเทศกฎหมายเปิดเสรีเรื่องกัญชากันแล้ว"นายธีร์กล่าว
ส่วนธุรกิจไฟแนนซ์ที่ สปป.ลาว โดยการเข้าลงทุนในบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และมีฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว บริษัทวางเป้าหมายเบื้องต้นว่า จะเข้าไปทำการตลาดให้มากขึ้น เนื่องจากคนลาวใช้รถจักรยานยนต์ หรือมอเตอร์ไซด์ กันเป็นหลัก ซึ่งจะสนับสนุนให้สินเชื่อมอเตอร์ไซด์ขยายตัวได้ต่อเนื่อง รวมทั้งขยายผลิตภัณฑ์อื่นๆในอนาคต เช่น นาโนไฟแนนซ์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นต้น ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ซึ่งแต่ละปีจะมีกำไรจากการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา มหทุนมีการเติบโตปีละ 10% ซึ่งมาจากพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
"เราเตรียมที่จะให้ลูกค้าลีสซิ่งที่มีอยู่ราว 1 แสนราย มาทำ KYC เพื่อจะเห็นข้อมูลลูกค้าและเห็นเครดิตสกอริ่ง จะทำให้สามารถต่อ ยอดบริการโปรดักส์สินเชื่ออื่นๆกับลูกค้าได้"นายธีร์กล่าว
สำหรับโครงสร้างรายได้ของอัลฟ่าฯ ในปี 2565 จะมาจากธุรกิจอสังหาฯ รายได้ประมาณ 600 ล้านบาท สัดส่วน 40% ธุรกิจกัญชงกัญชา รายได้ 600 ล้านบาท หรือ 40% และธุรกิจลีสซิ่งในสปป.ลาว รายได้ 100 ล้านบาท หรือสัดส่วน 20% โดยปีนี้คาดเติบโต 200% หลังจากนั้นคาดเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20% โดยทิศทางธุรกิจในระยะ 3 ปีนี้ (2565-2567) จะมาจากการพัฒนาโครงการอสังหาฯเพิ่มมากขึ้น ส่วนธุรกิจกัญชา จะเห็นการจับมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้อัลฟ่าอยู่ใน Ecosytem หนุนการเติบโตรับเมกะเทรนด์โลก และลีสซิ่งที่เน้นขยายสาขานอกเหนือจากสุวรรณเขต พร้อมยืนยันว่า อัลฟ่า ยังไม่ใช่ธุรกิจโฮลดิ้งคอมพานีแต่อย่างใด