แนวโน้มตลาดวันนี้ (28 เม.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET แกว่งขึ้น ประเด็นสงครามการค้าผ่อนคลายหลังจีนเตรียมยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 125% บางรายการ ขณะที่สัปดาห์นี้มีประเด็นในประเทศที่น่าสนใจคือ การประชุม กนง. 30 เม.ย. หากมี Surprise เชิงบวกจะเป็น Sentiment หนุน รวมทั้งการเปิดขายกองทุน ThaiESGX 2 พ.ค. ช่วยชะลอแรงขาย ประเมินแนวรับที่ 1150-1145 จุด แนวต้านที่ 1170-1175 จุด
ประเด็นสำคัญ
• ปธน. ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์พิเศษต่อนิตยสารไทม์ว่าได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับภาษีศุลกากรไปแล้วราว 200 ข้อตกลง และคาดการเจรจาจะสิ้นสุดลงในอีก 3-4 สัปดาห์ พร้อมเผยสหรัฐจะได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์หากเก็บภาษีศุลกากรได้ 20-50% ต่อประเทศคู่ค้าภายใน 1 ปีนี้
• รัฐบาลจีนกำลังพิจารณายกเว้นภาษีนำเข้า 125% ในสินค้าบางรายการของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ สะท้อนความพยายามลดแรงกดดันด้านเศรษฐกิจของจีน
• ม. มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เม.ย. ที่ 52.2 ต่ำสุดในรอบ 32 เดือน ขณะที่ผู้บริโภคคาดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 6.5% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 2524 จากกังวลมาตรการภาษีของ ปธน.ทรัมป์
• World Bank แนะลดภาษีนำเข้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเตือนว่าความไม่แน่นอนทางการค้ากำลังซ้ำเติมปัญหาตราสารหนี้และเศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศตลาดเกิดใหม่
• ม. หอการค้าไทยประเมินไทยและสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ารุนแรงที่สุดในอาเซียน คาด GDP ปี 2568 โตเพียง 1.8% และ 2.0% ตามลำดับ แนะผ่อนคลายนโยบายการเงินและกฎระเบียบต่างๆ
• การศึกษาค่าไฟฟ้า 3.99 บาท/หน่วย โดยพลังงาน, กกพ. และ กฟผ. ล่าสุดอยู่ระหว่างหารือโดยเฉพาะด้านกฎหมาย คาดจะสามารถประกาศได้ทันตามกรอบเวลาในวันที่ 30 เม.ย. นี้ หรืออย่างช้าในวันที่ 10 พ.ค.
• สศก.เผย 1Q68 ราคาหมูไทยปรับขึ้น 12% เหตุผลผลิตปีนี้ลดลง 3.5 แสนตัว รวมทั้งมีการเร่งผลักดันส่งออก เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาในประเทศ เรามองเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มอาหารอย่าง BTG CPF
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความคาดหวังเชิงบวกที่มีต่อ 1) กนง. จะมีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps และ 2) ปธน. ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐจะมีท่าทีผ่อนคลายลงเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะกับจีน อีกทั้งยังมีความคืบหน้าการเจรจาการค้าอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี ความไม่ชัดเจนของนโยบายภาษีของสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจโลก อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีต่อแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการในช่วง 2Q68 ส่งผลให้บรรยากาศลงทุนจะยังเป็นไปอย่างระมัดระวังและทำให้ SET ปรับขึ้นได้จำกัด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีโอกาสปรับขึ้นจากความคาดหวังที่มีต่อการประชุมของ กนง. ซึ่งอาจมีมติปรับลดดอกเบี้ยในวันพุธนี้ และการมีท่าทีผ่อนคลายลงเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐของ ปธน. ทรัมป์ อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนของนโบบายการค้าของสหรัฐยังทำให้ SET ปรับขึ้นได้จำกัด กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก และ 2 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 1Q68-2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เลือก ADVANC TRUE BTG CPF CPALL
2. หุ้น Undervalued ซึ่งซื้อขาย PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ดี YoY และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง แนะนำ GULF MTC CBG SPRC
3. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50: ADVANC BDMS CPALL PTT และ SET100: BCH BTG AP
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำเก็งกำไร 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกหาก กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF), กลุ่มค้าปลีก (CPALL) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI), กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) และกลุ่มไฟฟ้า (GULF GPSC) และ 2) หุ้นปลอดภัยที่คาดต้านทานความเสี่ยงจากสงครามการค้าหากมีสัญญาณรุนแรงหรือยืดเยื้อมากขึ้น แนะนำ BCH CPALL GULF MTC OR และ TRUE
Daily top picks
MTC : มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากตลาดความคาดหวัง กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมวันพุธนี้ อีกทั้งยังเป็นหุ้น Undervalued โดยปี 2568 คาดกำไรเติบโต 17%YoY ขณะที่ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 68F ระดับ 13.9 เท่า คิดเป็น -2SD และน่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX จากมี SETESG rating ระดับ AAA
KCE: มองราคาหุ้นระยะสั้นมีโอกาสได้ Sentiment บวกจากเงินบาทอ่อนค่า ราคาทองแดงปรับลง และความคาดหวังลูกค้าจะเร่งสั่งซื้อสินค้าเพื่อเก็บสต็อกไว้ก่อนมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐที่เลื่อนเก็บไป 90 วัน จากวันที่ประกาศต้น เม.ย. จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งอาจหนุนให้งบ 1Q-2Q68 ดีกว่าคาดการณ์ไว้เดิม ทั้งนี้วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรไม่เกิน 18.20 บาท