หุ้นไทยท้ายสัปดาห์วันนี้ แนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด มีแรงซื้อหุ้นที่มีข่าวบวกหนุนเฉพาะตัว หลังบจ. เปิด Q2 คาดกำไรรวม  3.45 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5%yoy และครึ่งปีแรกกำไรเพิ่มขึ้น 8.57%yoy จากการรวบรวม 150 บริษัท ด้านราคาน้ำมันยังยืนเหนือระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล  ตลาดยังมีแรงกดดันเดิมๆทั้งกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยและสัญญาณ Overbought แนะหาจังหวะซื้อเมื่ออ่อนตัว

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (19 ส.ค.)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,630 - 1,645 จุด แม้ Fund flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง (ซื้อสุทธิ 4.1 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือนส.ค.) รวมถึงแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะเป็นแรงหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ประกอบกับภาวะ Overbought ตามทางเทคนิคจะกดดันต่อภาวะตลาดช่วงนี้ ดังนั้นจึงแนะนำ Selective buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อช่วงอ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น  PTTEP TOP IVL SPRC BANPU ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น และถ่านหินทรงตัวระดับสูง  ส่วน  KBANK BBL SCB KTB TTB  อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น  และ  BEM BTS INTUCH ADVANC DTAC BDMS BH หุ้น Defensive ในช่วงตลาดผันผวน

หุ้นแนะนำวันนี้

-BANPU (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 20 บาท) เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 17 เป็น 20 บาท จากทิศทางผลกำไรที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่องในครึ่งปีหลังและปีหน้าจากปริมาณและราคาขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ขณะที่วันนี้มี Sentiment บวกราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นอีก 21ดอลลาร์/ตัน(+5%) สู่ระดับ 435 ดอลลาร์/ตัน

-TTB (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 1.60 บาท) ราคาหุ้น Underperform ตลาดมาก YTD ติดลบ 17% ขณะที่ภาพรวมธุรกิจได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และ TTB คาดว่าจะเป็นธนาคารที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 20% ในปีนี้ดีสุดของกลุ่มธนาคารขนาดกลางถึงเล็ก

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2(Q2/22) เพิ่มขึ้น 34.2%จากไตรมาสก่อนหน้า (qoq)และ 15.5%จากช่วงเดียวกันปีก่อน (yoy): จากการรวบรวมผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนใน Q2/22 มีกำไรสุทธิรวม 3.45 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 34.2%qoq และ 15.5%yoy และเมื่อรวมครึ่งปีแรก (1H22) มีกำไรเพิ่มขึ้น 8.57%yoy จากการรวบรวม 150 บริษัทที่ฝ่ายวิจัย BB ทำบทวิเคราะห์คาดการณ์กำไรพบว่ามีบริษัทที่มีกำไรดีกว่าที่ตลาดคาดเกิน 5% คิดเป็น 43% และมี 27% ต่ำกว่าคาด และมี 30% ผลประกอบการออกมาตามคาด (in line)

(+) กลุ่มน้ำมัน - ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมายืนเหนือระดับ 90  ดอลลาร์/บาร์เรล ได้อีกครั้ง: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.39 ดอลลาร์ (+2.7%) ปิด 90.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดยังตอบรับกับตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่ลดลงมากถึง 7.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล และตลาดเชื่อว่าการที่ยุโรปคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียจะทำให้ราคาน้ำมันกลับมาสูงขึ้นอีกในช่วงฤดูหนาวจากซัพพลายที่ตึงตัวและดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น

(+) สัปดาห์หน้าติดตามการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ: การประชุมประจำปีจะจัดขึ้นที่เมือง Jackson hole ในรัฐไวโอมิง โดยมีเจ้าห
น้าที่ธนาคารกลางอื่นๆ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย ความสนใจหลักของนักลงทุนคือการรอดูการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ว่าเขาจะใช้เครื่องมือหรือนโยบายการเงินอย่างไรเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย ซึ่งสุนทรพจน์นี้อาจจะบ่งชี้ถึงการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในครั้งถัดๆ ไป