หุ้นไทยวันนี้ คาดอ่อนตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ปัจจัยลบจากเฟดลั่นเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปและแรงกว่านี้สู้พิษเงินเฟ้อ ขณะที่ราคาน้ำมันดีดตัวและมีแรงซื้อดักกำไร Q3 หนุนดัชนีรีบาวด์ แนะเลือกหุ้นมีข่าวบวก ชูหุ้นเด่น BEM WHA 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (3 พ.ย.) นักวิเคราะห์จาก บล. กรุงศรี ประเมิน SET อ่อนตัวลงแนวรับ 1,620 / 1,610 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด 0.75% แต่ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไปเนื่องจากเงินเฟ้อยังคงสูงมาก และอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นลบต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นรวมถึงแรงซื้อดักงบกำไรงวดไตรมาส 3 (Q3/22) จะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้นที่คาด 3Q22 เติบโต BDMS BH CPF TU GFPT BANPU EPG BEM BTS WHA ส่วน  AOT CENTEL ERW BA AAV SPA SISB AU CPN CRC CPALL อานิสงส์การเปิดประเทศและคาดงบ 3Q22 เติบโต และ  PTTEP PTT ราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง

หุ้นแนะนำวันนี้

-BEM (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) เป็นหุ้นธีมเปิดเมืองที่ราคายัง Laggard, แนวโน้มกำไรฟื้นตัวตามจำนวนผู้เข้าใช้บริการทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดิน และคาดจำนวนผู้เข้าใช้จะเพิ่มขึ้นแบบมีนัยจากการเปิดใช้ศูนย์ประชุมฯ สิริกิติ์โฉมใหม่
 

-WHA (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 4.90 บาท) คาดมีกำไรปกติใน 3Q22 ที่ 582 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13.3%qoq และ 154%yoy จากยอดโอนขายที่ดินและมีมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มในระยะกลางยาวยังดีหลังทำยอดขายที่ดินพุ่งใกล้แตะระดับเป้าหมายทั้งปีที่ 1,600 ไร่แล้ว

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด แต่ประธานเฟดย้ำเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ: กดดันดาวโจนส์ร่วง 505 จุด (-1.55%) ปิดที่ 32,148 จุด หลังจากนาย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุจะยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ระดับ 2% (ดอกเบี้ยขาขึ้นอาจจะนานกว่าที่คาดไว้)

(+) รัสเซียตอบรับกลับเข้าสู่ข้อตกลงส่งออกธัญพืชอีกครั้ง: เนื่องจากยูเครนให้การรับรองว่าจะไม่ใช้ช่องทางดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร เรามองเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มสินค้าเกษตร (CPF GFPT) รวมทั้ง SNNP หลังจากที่ราคาธัญพืชซึ่งเป็นวัตถุดิบร่วงลงตอบรับกับข่าวนี้ทันที 

(+/-) พรุ่งนี้ติดตามการจ้างงานของสหรัฐอาจเปลี่ยนท่าทีของตลาด: โดยเฉพาะหากการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) ของสหรัฐเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2-2.4 แสนตำแหน่ง  และมีอัตราการว่างงานลดลงต่ำกว่าระดับ 3.5% จะทำให้โอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้ง ปัจจัยนี้จะสร้างความกังวลให้นักลงทุนและเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดในสัปดาห์ถัดไป