หุ้นไทยวันนี้ คาดเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด มีแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว หลังธนาคารกลางจีนปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กระทบต่อราคาน้ำมันปรับตัวลงแรงตาม เป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน ด้านสหรัฐยังต้องติดตามท่าทีเฟดต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว สภาพัฒน์เปิด GDP ไตรมาส 2/22 ขยายตัว 2.5% ฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ตลาดหุ้นไทยยังมีฟันด์โฟลทเข้า แต่ที่ผ่านมา SET ขึ้นแรงใกล้เขต Overbought แล้ว แนะเล่นหุ้นรายตัว
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ นักวิเคราะห์จากบล.กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัว 1,615 - 1,635 จุด แม้จะได้แรงหนุน Fund flow ต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่องจากคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้การที่ดัชนีขึ้นแรงจนเข้าใกล้เขต Overbought จะเป็นอีกแรงกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น KBANK BBL SCB KTB TTB ได้อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น หุ้น GPSC BGRIM GULF RATCH SCGP SCC EPG อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง และ KCE HANA DELTA รับอานิสงส์หุ้นกลุ่ม Tech ฟื้นตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้
-KBANK (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 170 บาท) ยังได้ Sentiment บวกจาก MSCI ประกาศนำ KBANK กลับเข้ามาคำนวณในดัชนี MSCI Global Standard อีกครั้งคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนจากบรรดากองทุน Active Fund ทยอยเข้าซื้อดักเก็งกำไรก่อนมีผลบังคับใช้จริงในวันที่ 31 ส.ค. 2022
- HMPRO (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 17บาท) เป็นหุ้นธีมเปิดเมืองและกลุ่มค้าปลีกที่ราคายัง Laggard ที่สุด โดย YTD ราคาหุ้น HMPRO ติดลบ 4.8% ขณะที่หุ้นในกลุ่มเปิดเมืองปรับขึ้นเฉลี่ย 10%-20% HMPRO มีสัดส่วนรายได้จากเมืองหลักและท่องเที่ยวคิดเป็น 70%ของรายได้รวม
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) GDP ไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 จากการใช้จ่ายและบริโภคในประเทศ: สภาพัฒฯ ประกาศ GDP ไตรมาส 2/22 ขยายตัว 2.5% เพิ่มขึ้นจาก 2.3% ในไตรมาส 1/22 นับเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการการใช้จ่ายและบริโภคในประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.9% จาก 3.5% ในไตรมาส 1/22 เป็นปัจจัยหนุนหลัก จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 และการเปิดรับนักท่องเที่ยว
(-) กังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัวหลังแบงชาติจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.10% สู่ระดับ 2.75% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย reverse repurchase ประเภท 7 วัน ลง 0.10 % สู่ระดับ 2.0% ซึ่งสวนทางกับธนาคารกลางอื่นๆ ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นตัว จำเป็นต้องกระตุ้นด้วยนโยบายการเงิน
(-) กลุ่มน้ำมัน - น้ำมันดิบ WTI ร่วงต่ำกว่าระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกครั้งกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.68 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 89.41 ดอลลาร์/บาร์เรล จาก 1) ดอลลาร์แข็งค่า, 2) กังวลดีมานด์น้ำมันจากจีนชะลอตัวหลังจากเศรษฐกิจจีนโดยรวมยังไม่ดี และ 3)การเจรจานิวเคลียร์อิหร่านมีความคืบหน้า ส่งผลให้อิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันได้ในอนาคต