Market

มีแรงซื้อหุ้นลงแรง ทำ Cover short หนุน SET รีบาวด์ คาดกรอบ 1,580-1,600
2 ธ.ค. 2564

บล.กรุงศรี มองตลาดผันผวนชวนเล่นสั้น ลุ้นแรงซื้อหุ้นลงแรง ทำ Cover short หนุนดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นมาได้ คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ1,580 – 1,600 ตลาดมีแรงกดดันสหรัฐพบผู้ติดเชื้อ Omicron รายแรก เฟดส่งสัญญาณยุติ QE เร็วกว่าคาด และแบงกชาติไม่หนุนใช้เงินดิจิทัลชำระค่าสินค้า ระวังแรงขาย JMART  RS XPG 

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (2 ธ.ค. 2564) บล. กรุงศรี คาด SET แกว่งตัว 1,580 – 1,600 จุด โดยข่าวการพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ Omicron รายแรกในสหรัฐ , FED ส่งสัญญาณยุติ QE เร็วกว่าคาดจากภาวะเงินเฟ้อระดับสูง รวมถึงข่าวธปท.ไม่สนับสนุนการใช้เงินสกุลดิจิตอลชำระสินค้าบริการ เป็นแรงกดดันต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีแรงซื้อหุ้นที่ปรับตัวลงแรงเพื่อ Cover short ช่วยหนุนดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้ 

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มได้อานิสงส์ความกังวล Covid-19   COM7 SYNEX BCH CHG MEGA     
  • กลุ่มได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า HANA KCE  TU ASIAN  EPG XO
  • ระวังแรงขาย JMART  RS XPG  ข่าวธปท.ไม่สนับสนุนการใช้เงินสกุลดิจิตอล

 

หุ้นแนะนำวันนี้

  • SAT (21.7027.5Event Play รับงาน Motor EXPO 1-12 ธ.ค. ด้านการผลิตรถยนต์ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วตั้งแต่เดือน ส.ค. ที่ผ่านมาหลังจากโรงงานสามารถกลับมาผลิตได้ตามปกติ ส่วนปีหน้าคาดยอดผลิตและขายฟื้นตัวต่อเนื่อง จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ปัญหาขาดแคลนชิปเริ่มลดลง

 

  • XO (ปิด 18.9 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 23.30) โควิด -19 ระบาดระลอกใหม่ในยุโรปคาดหนุนดีมานด์และยอดขายซอสพริกของ XO เพิ่มขึ้น เหมือนกับรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นทำ All time high ในหลายๆ ไตรมาสในช่วงที่โควิด -19 ระบาดในระลอก 1-3 (XO มีสัดส่วนรายได้กว่า 80% จากยุโรป)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) 462ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 462 จุด (-1.34%) ปิดที่ระดับ 34,022 จุด หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายแรกซึ่งเดินทางกลับจากแอฟริกาใต้ และได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ อีกทั้งนักลงทุนยังกังวลกับข่าวที่ FED จะเร่งลด QE ให้เร็วขึ้น

 

  • (-) QE โกลด์แมน แซคส์ ออกบทวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะปรับลดวงเงิน QE เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ เฟดยุติ QE ในเดือน มี.ค.ปีหน้า และจากนั้นอาจจะพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงเดือน มิ.ย. ปีหน้าเช่นกัน

 

  • (+/-) OPEC+ Meeting เดิม OPEC+ มีมติเพิ่มปริมาณการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวันในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา แต่จากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงและดีมานด์อาจจะชะลอตัวลงหลังจากไวรัสโควิด-19 กลายพันธ์เป็นสายพันธ์โอไมครอนจึงเป็นไปได้ที่ OPEC+ จะระงับการเพิ่มการผลิตเพื่อพยุงและรอประเมินสถานการณ์ของไวรัสโอไมครอนอีกครั้ง

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com