ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ มีแรงกดดันจากยุโรปล็อกดาวน์จากโควิดระบาดอีกระลอก และคงคาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็ว กระทบทั้งเศรษฐกิจ-ฟันด์โฟลทผันผวน ปัจจัยในประเทศยังมีแรงหนุนจากข่าวหุ้น 2 ค่ายมือถือควบรวม แนะลงทุนหุ้นได้แรงหนุนเงินบาทอ่อน-ดอกเบี้ยขึ้น-ค่าไฟขึ้น

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     (23 พ.ย. 2564) บล.กรุงศรีคาด SET แกว่งตัว 1,640 - 1,660 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนกลุ่ม ICT จากการควบรวม DTAC – TRUE ส่งผลให้การแข่งขันน้อยลง ประกอบกับแรงซื้อหุ้นที่มีข่าวเฉพาะ

แต่ก็มีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหลังยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในยุโรปพุ่งขึ้นรอบใหม่ซึ่งหลายประเทศต้อง Lockdown อีกครั้ง นอกจากนี้ Fund flow ที่ผันผวนจากความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะยังคงเป็นแรงกดดันต่อดัชนี

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
กลุ่มได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า HANA KCE  TU ASIAN NER EPG
กลุ่มธนาคาร ( BBL TTB KTB KBANK BLA ) จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น
กลุ่มโรงไฟฟ้า ( BGRIM GPSC GULF ) อานิสงส์ปรับขึ้นค่า Ft. ตั้งแต่ 1Q22

หุ้นแนะนำวันนี้
GFPT (12.7IAA Consensus 15ราคาหุ้นลดลงสะท้อนผลการดำเนินงานที่ขาดทุน 87 ล้านบาทใน 3Q21 ไปแล้ว แนะดักซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาไก่ในประเทศเริ่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 35 บาท/ก.ก. จากเฉลี่ย 30 บาท/กก. ในเดือน ต.ค. และบางพื้นที่ปรับขึ้นเป็น 43 บาท/ ก.ก.

TH (ปิด 3.18 ซื้อ/เป้า 3.90) เปลี่ยนธุรกิจสู่การบริหารจัดการหนี้อย่างเต็มรูปแบบ 3Q21 ชนะประมูลหนี้เสียมูลค่า 3,000 ล้านบาทเริ่มทยอยรับรู้รายได้ 4Q21 ส่วนปีหน้าตั้งเป้าประมูลหนี้เพิ่มอีก 6,000 ล้านบาท และอีก 6,000 ล้านบาทในปี 66 และล่าสุดแตกไลน์ธุรกิจสู่การเงินดิจิทัล (Decentralized Infrastructure) เป็น Growth story ในอนาคต

ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) 2: ปธน. โจ ไบเดน ประกาศแต่งตั้งให้นายเจอโรม พาวเวล เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 ก่อนที่วาระเดิมจะสิ้นสุดลงในเดือน ก.พ. ปีหน้า ส่วนนางลาเอล เบอร์นาร์ด คู่แข่งคนสำคัญได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองประธานเฟด ตลาดตอบรับเชิงบวก เนื่องจากพาวเวล เป็นคนที่มีประสบการณ์ การดำเนินนโยบายมีความต่อเนื่อง และที่สำคัญเน้นนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย (ไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย)

(+/-) 100-120แบ่งเป็น สหรัฐจะระบายน้ำมัน 45-60 ล้านบาร์เรล, จีน 30 ล้านบาร์เรล, อินเดีย 5 ล้านบาร์เรล, ญี่ปุ่น 10 ล้านบาร์เรล และเกาหลีใต้ 10 ล้านบาร์เรลหากเทียบเป็นค่าเฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่ 320,000 บาร์เรลต่อวันหรือ 0.35% ของ Supply เดิมถือว่าไม่มากและคาดว่าจะช่วยตึงราคาได้ในเวลาที่จำกัด

(+) ยอดส่งออกของไทยเดือน ต.ค. ขยายตัว 17.4%yoy สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 13%yoy: ก.พาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกของไทยเดือน ต.ค. อยู่ที่ 22,738 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 17.4%yoy ใกล้เคียงกับเดือน ก.ย.ที่ขยายตัว 17.1% และมากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะขยายตัว 13%yoy อย่างไรก็ตามหากหักรายการที่เป็นน้ำมันและทองคำออกยอดส่งออกจะขยายตัวเพียง 12.2%yoy ถือว่าใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้