ตามคาด SCGP ประกาศกำไร ลดลง 22% เหลือกำไร 1,657 ล้านบาท แม้ยอดขายเพิ่ม แต่ต้นทุนขายพุ่งกว่า 43 %
บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2565 มีกำไรสุทธิ 1,657.95 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.39 บาท ลดลง 22.33% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 2,134.73 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.50 บาท
กำไรที่ลดลงมาจาก ต้นทุนขายที่เพิ่้มขึ้น แม้ในไตรมาส 1/65 จะมีรายได้จากการขาย 36,634 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
แบ่งเป็น รายได้จากการขายของสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร เท่ากับ 31,022 ล้านบาท (ก่อนตัดรายการบัญชีระหว่างส่วนงาน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
และ รายได้จากการขายของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ เท่ากับ 6,208 ล้านบาท (ก่อนตัดรายการบัญชีระหว่างส่วนงาน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 32เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่ต้นทุนขายอยู่ที่ 30,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจาก 1.ต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายธุรกิจ 2.ค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูงรวมถึงต้นทุนด้านพลังงานที่สูงขึ้น 3.การเข้าถึงกระดาษรีไซเคิลที่ทำได้ยากขึ้นในช่วงที่มีการเพิ่มขึ้นของการระบาดของโควิด 19 ในหลายประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาวัตถุดิบ และต้นทุนขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
โดยมี EBITDA เท่ากับ 4,887 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมี EBITDA margin ที่ร้อยละ 13 ส่วนกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 1,658 ล้านบาทลดลงร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน