หุ้นไทยวันนี้นักลงทุนเฝ้ารอดูสัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐ เดือนเม.ย.ที่จะประกาศคืนนี้ เป็นตัวแปรต่อเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% หรือไม่ ด้านราคาน้ำมันร่วงแรงเป็นลบต่อหุ้นพลังงาน ขณะที่ฝั่งไทยอยู่ในช่วงหุ้นทยอยโชว์ผลดำเนินงานไตรมาสแรก และคาดมีแรงซื้อ Cover short บล.กรุงศรี คาด SET แกว่งตัว 1,615 - 1,635 จุด
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (11 พ.ค.) นักวิเคราะห์จาก บล. กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัว 1,615 - 1,635 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ โดยดัชนียังคงถูกกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวตามคาดการณ์ FED เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ การ Lockdown บางมณฑลของจีน รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อ Cover short และหุ้นงบผลประกอบการไตรมาสแรก (Q1/65) เติบโตจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy ได้แก่ กลุ่มเดินเรือ PSL TTA รับผลบวกค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่คาดว่างบ Q1/22 เติบโต ได้แก่ IVL TOP SPRC BCP ESSO EPG CPALL CENTEL MINT BDMS JMT SINGER JMART TH FORTH GFPT
หุ้นแนะนำวันนี้
- ASIAN (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 23 บาท) ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าล่าสุดแตะระดับ 34.61 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่ามากสุดในรอบกว่า 5 ปี งบ 1Q22 ออกมาดีตามคาดทำได้ 248 ล้านบาท +15yoy ปลายปีเตรียม IPO บริษัทลูกในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI) เข้าตลาดฯ
- EPG (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 16 บาท) แนวโน้มงบ 4Q22 (ม.ค.-มี.ค.65) ไม่ได้แย่อย่างที่กังวล ขณะที่ไตรมาสนี้ (1Q23) จะได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่าเนื่องจาก EPG มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 60% ของรายได้รวม และวันนี้ได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบร่วงแรง
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) น้ำมันดิบ WTI หลุด 100 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลดีมานด์ชะลอตัวยังกดตลาด : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงอีก 3.33 ดอลลาร์ (-3.2%) ปิดที่ระดับ 99.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนยังกังวลกับภาวะดีมานด์ชะลอตัวโดยเฉพาะจีนซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการ Zero Covid นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
(-) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยลดลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือน : ม. หอการค้าฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย. ลดลงสู่ระดับ 40.7 จาก 42 ในเดือน มี.ค. ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และ เป็นการลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากประชาชนกังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ,ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น และราคาพลังงานพุ่งสูง
(+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐหากลดลงจะช่วยดึง Sentiment ของตลาด: เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐในเดือน เม.ย. จะลดลงสู่ระดับ 8.1%-8.2% จาก 8.5% ในเดือน มี.ค. และคาดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 6-6.2% จาก 6.5% ในเดือน มี.ค.หากตัวเลขลดลงจริงเชื่อว่าจะช่วยคลายกังวลต่อการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ แต่หากตัวเลขสูงกว่าที่ตลาดคาด แรงกดดันต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง