ตลาดหลักทรัพย์ ลั่น ‘ไม่ได้นิ่งนอนใจ’ เคสเฮียฮ้อ'ถูกฟลอซ์เซลหุ้น RS - RSXYZ  กดราคาดิ่ง แจงยังไม่ได้ส่งหนังสือให้บริษัทชี้แจง เพราะหุ้นที่จำนำเป็นสิทธิส่วนบุคตลของผู้ถือหุ้น ย้ำขอให้ผู้บริหารโฟกัสการทำธุรกิจ  เร่งถก ก.ล.ต. ล้อมคอกปมผู้บริหาร ‘จำนำหุ้น'นอกตลาด  ชูมาตรการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ 

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีหุ้นของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS  และ "บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) หรือ RSXYZ"  ปรับตัวลงแรงในช่วงต้นสัปดาห์ปีใหม่ 2568 ว่า ตลท. ได้ตรวจสอบข้อมูลจาก บริษัท ระบบศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD พบว่า  “เฮียฮ้อ - สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" ผู้ถือหุ้นใหญ่ของทั้งสองบริษัท ได้มีการนำหุ้น 2 บริษัทไปวางเป็นหลักประกันขอมาร์จิ้นโลน กับบริษัทหลักทรัพย์รายหนึ่งจำนวน 222 ล้านหุ้น หรือราว 10% และมีกระแสข่าวการนำหุ้นดังกล่าวไปจำนำกับบริษัทหลักทรัพย์อีกแห่ง มูลค่าราว 1,000 ล้านบาท เพื่อไปเล่น Block Trade  นอกตลาด  ซึ่งในเรื่องของหลักประกันมาร์จิ้นโลน ถูกบังคับขาย (Forced sell)นั้น ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์รับทราบและและไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เนื่องจากหุ้นเป็นสินทรัพย์ส่วนบุคคล การนำหุ้นไปวางหลักประกันขอมาร์จิ้นโลนหรือนำไปทำอะไร ถือเป็นสิทธิส่วนบุคตล  ตลาดหลักทรัพย์จึงยังไม่ได้ส่งหนังสือให้บริษัทดังกล่าวชี้แจง 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นการจำนำหุ้นเป็นปัญหาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯและสำนักงาน คณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เห็นปัญหาและมีการหารือร่วมกันในการกำกับดูแลรวมถึงการออกมาตรการเพิ่มเติม  ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลการจำนำหุ้นผ่านการจดแจ้งกับ TSD  รูปแบบอาจจะคล้ายๆกับเปิดเผยข้อมูลหลักทรัพย์ที่วางเป็นหลักประกันของมาร์จิ้นโลนออกมาแบบรายเดือน  โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนกุมภาพันธ์นี้

“การจำนำหุ้น เป็นสิทธิของผู้ถือหุ้นเพราะเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ประเด็นนี่  ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ก็ศึกษาแนวทางกำกับดูแล  หากเขาเป็นผู้บริหารของ บจ.  จะต้องมีหน้าที่ต้องรายงานข้อมูลต่อสาธารณะ เพราะความตั้งใจของตลาดหลักทรัพย์อยากให้ผู้บริหาร บจ. โฟกัสกับการทำธุรกิจมากกว่า ซึ่งการจำนำหุ้น ไม่รู้ว่าผู้บริหารนี้ไปโฟกัสตรงไหน  อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลจำนำหุ้น อาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยให้นักลงทุนมีข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจมากขึ้น”นายรองรักษ์กล่าว