อัพเดท พอร์ตประกันสังคม หลังปิดสมุดทะเบียนล่าสุดปี 65 ถือหุ้นและกองทุน ทั้งหมด 75 บริษัท มูลค่าเงินลงทุนรวมกัน 2.61 แสนล้าน ล้วงไส้ใน พบ ลดพอร์ตหุ้นเกือบทุกกลุ่ม ทั้งพลังงาน แบงก์ สื่อสาร ขนส่ง พาณิชย์ การแพทย์
.
รู้หรือไม่ เงินที่เราๆ ท่านๆ จ่ายสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เดือนละ 750 บาท เพื่อเป็นหลักประกันในอนาคต เช่นค่ารักษาพยาบาล ค่าเลี้ยงดูบุตร เงินชดเชยกรณีว่างงาน เงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ ซึ่งปัจจุบันสำนักงานประกันสังคม มีเงินสมทบ เฉียด 3 ล้านล้านบาท 
.
โดยสำนักงานประกันสังคม นำไปลงทุนเพื่อให้ดอกผลงอกเงย ตามระเบียบที่คณะกรรมการประกันสังคมและกระทรวงการคลังกำหนด และนำผลตอบแทนกลับมาจ่ายสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนในอนาคต แบ่งเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง 82% และอีกส่วนหนึ่งหรือประมาณ 18% นำไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่น ตลาดหุ้น 
.
ส่วนจะถือหุ้นตัวไหนในตลาดหลักทรัพย์ สำนักข่าว Clubhoon ได้อัพเดท พอร์ตของสำนักงานประกันสังคม หลังปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดในปี 2565 มาให้นักลงทุนท่านได้รับทราบ
.
จากการตรวจสอบ พบว่าสำนักงานประกันสังคม ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียน และกองทุนประเภทต่างๆ รวมทั้งหมด 75 บริษัท จากราคาปิดตลาดของหุ้นแต่ละบริษัทที่ประกันสังคมถืออยู่ ณ วันที่ 18 มีนาคม 2565 พบว่า มีมูลค่าเงินลงทุนรวมกันมากถึง 261,520.94 ล้านบาท 
.
หุ้นที่สำนักงานประกันสังคมลงทุนทั้งหมด ล้วนแต่เป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐาน โดยหุ้นที่ถือมากสุด คือ กลุ่มพลังงาน ถือหุ้นในกลุ่มนี้ 13 บริษัท คิดจากราคาปิด ณ วันที่ 18 มีนาคม 2565 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 48,735.26 ล้านบาท 
.
ตามด้วยกลุ่มแบงก์ ถือหุ้นใน 4 แห่ง มูลค่าเงินลงทุน  31,198.63 ล้านบาท 
.
กองทุนรวมประเภทต่างๆ ทั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทรัสต์ ถืออยู่ 31 กองทุน รวมมูลค่าเงินลงทุน  29,142.79 ล้านบาท 
.
กลุ่มพาณิชย์ถือหุ้นใน 5 บริษัท รวมเงินลงทุน   29,136.65  ล้านบาท 
.
กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ ถือหุ้นใน 3 บริษัท ประกอบด้วย AOT BEM และ BTS คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน  24,004.28 ล้านบาท 
.
กลุ่มสื่อสาร ถืออยู่ใน 3 บริษัท มูลค่าเงินลงทุน  22,408.45  ล้านบาท 
.
อย่างไรก็ตาม หากดูไส้ในของพอร์ตประกันสังคม จากข้อมูล ณ สิ้นกันยายน 2564 เทียบกับ ข้อมูลอัพเดท ถึง 18 มีนาคม 2565 พบว่าสำนักงานประกันสังคม มีการลดน้ำหนักการลงทุนเกือบทุกกลุ่ม ซึ่งคาดว่าน่าจะขายออก ช่วงต้นๆ ปี ที่ต่างชาติเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง  
.
โดยเฉพาะหุ้นพลังงาน กลุ่มปตท. มีการขายหุ้น PTT ออกมา 69.29 ล้านหุ้น จากที่เคยถือ 574.82 ล้านหุ้น ลดลงเหลือ 505.53 ล้านหุ้น PTTEP ขายออกมา 16.82 ล้านหุ้น จากที่เคยถือ 62.04 ล้านหุ้น เหลือ 45.21 ล้านหุ้น TOP ขายออกมา 19.25 ล้านหุ้น จาก 51.73 ล้านหุ้น เหลือ 32.47 ล้านหุ้น GPSC ขายออกมา 14.68 ล้านหุ้น จาก 56.46 ล้านหุ้นเหลือ 41.77 ล้านหุ้น IRPC ขายออกมา 89.84 ล้านหุ้น จาก 492.78 ล้านหุ้น เหลือในพอร์ต 402.93 ล้านหุ้น 
. 
และที่น่าสังเกตุ คือ BCPG จากที่เคยถือ 28.39 ล้านหุ้น แต่ข้อมูลอัพเดท ไม่ปรากฎในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก
.
สำหรับกลุ่มแบงก์ ประกันสังคม ลดน้ำหนักการลงทุนเยอะพอสมควร โดยเฉพาะ SCB ได้ลดพอร์ตจากที่เคยถือ 120.34 ล้านหุ้น เหลือ 77.87 ล้านหุ้น หรือขายออกมา 42.46 ล้านหุ้น KBANK จากที่เคยถือ 99.04 ล้านหุ้น ลดลงเหลือ 61.07 ล้านหุ้น ขายออกมา 37.97 ล้านหุ้น และ BBL ขายออกมา 21.82 ล้านหุ้น จากที่เคยถือ 99.56 ล้านหุ้น เหลือ 77.74 ล้านหุ้น 
.
กลุ่มพาณิชย์ ลดพอร์ตหุ้น CPALL และ HMPRO ในจำนวนใกล้กัน คือราว 71 ล้านหุ้น 
.
กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ ลดพอร์ตการลงทุนในทุกตัว AOT จาก จาก 269.90 ล้านหุ้น ลดลงเหลือ 235.49 ล้านหุ้น BEM จาก 581.81 ล้านหุ้น ลดเหลือ 563.92 ล้านหุ้น และ BTS จาก 447.70 ล้านหุ้น ลดเหลือ 411.20 ล้านหุ้น
.
กลุ่มสื่อสาร ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน ADVANC จาก 99.94 ล้านหุ้น เหลือ 93.84 ล้านหุ้น โดยขายออกมา 36.1 ล้านหุ้น และ DTAC ขายออกมา 1.17 ล้านหุ้น จากที่เคยถือ 89.40 ล้านหุ้น เหลือ 88.22 ล้านหุ้น
.
กลุ่มการแพทย์ ลดการถือหุ้น BDMS ลง 12.44 ล้านหุ้น จากปลายปีที่เคยถือ 623.40 ล้านหุ้น เหลือในพอร์ต 610.95 ล้านหุ้น และ BH ลดการถือหุ้นจาก 26.15 ล้านหุ้น เหลือ 20.41 ล้านหุ้น
. 
สำหรับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ลดน้ำหนักหุ้น TU ลงจากที่เคยถือ 216.70 ล้านหุ้น เหลือ 160.52 ล้านหุ้น ซึ่ง ASIAN เมื่อปลายปีที่แล้ว ถือ 5.22 ล้านหุ้น แต่ล่าสุดไม่ปรากฎรายชื่อแล้ว 
.
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับลดหุ้น LH ในพอร์ตค่อนข้างเยอะมากถึง 171.59 ล้านหุ้น จากที่เคยถือ 537.53 ล้านหุ้น เหลือ 365.94 ล้านหุ้น CPN ขายออกมา 18.68 ล้านหุ้น เหลือในพอร์ต 78.22 ล้านหุ้น
.
และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม BGC จากที่เคยถือ 4.25 ล้านหุ้น ปัจจุบัน ไม่ปรากฏรายชื่อใน 10 อันดับผู้ถือหุ้น
.
อย่างไรก็ตาม มี 6 บริษัท ที่ประกันสังคม เพิ่มน้ำหนักการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม หุ้น MINT ซื้อเข้าพอร์ตมากถึง 55.21 ล้านหุ้น จากที่เคยถือ 105.30 ล้านหุ้น ขยับมาเป็น 160.52 ล้านหุ้น และซื้อ CPF เข้าพอร์ตเพิ่ม 6.15 ล้านหุ้น จาก 306.83 ล้านหุ้น เป็น 312.98 ล้านหุ้น หุ้น CRC เก็บเพิ่ม  950,000 หุ้น  GLOBAL ซื้อเพิ่ม 4.55 ล้านหุ้น จาก 104.70 ล้านหุ้น เพิ่มเป็น 109.26 ล้านหุ้น SCC ซื้อเพิ่ม 821,300 หุ้น  หุ้น M และหุ้น EGCO ซื้อเพิ่มเล็กน้อย