Market

เทียบฟอร์ม HMPRO-GLOBAL 2 หุ้นค้าปลีกวัสดุก่อสร้างยังน่าลงทุนหรือไม่
7 พ.ย 2564

HMPRO-GLOBAL 2 หุ้นค้าปลีกวัสดุก่อสร้างยังน่าลงทุนหรือไม่ หลังประกาศงบไตรมาส 3 และ 9 เดือน นักวิเคราะห์มอง 2 หุ้นนี้อย่างไร ไปติดตามกัน

 

เทียบฟอร์ม 2 หุ้นค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO และบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) หรือ GLOBAL หลังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 กันยายน 2564 และงวด 9 เดือน ปี 64 ยังน่าสนใจลงทุนหรือไม่ ไปดูความเห็น

 

โดยที่ HMPRO เป็นบริษัทแรก ที่ประกาศผลประกอบการออกมา มีกำไรไตรมาส 3 กำไรสุทธิ 870.41 ล้านบาท ลดลง 530.1 ล้านบาท หรือลดลง 37.85 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 1,400.51 ล้านบาท 

 

ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2564 มีกำไร 3,665.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 3,609.71 ล้านบาท

 

GLOBAL    ไตรมาส 3 กำไร 659.14 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 44.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 455.51 ล้าน บาท

 

งวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ  2,597,19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  63.63% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 1,578.37 ล้านบาท

 

ในมุมมองของโบรกเกอร์ แม้ HMPRO จะมีกำไรลดลง ทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่โบรกเกอร์ต่างก็แนะนำให้ "ซื้อ" เพราะมองว่าเป็น 1ในหุ้นค้าปลีก ที่ผลประกอบการแข็งแกร่ง และมีแผนรองรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว 

 

โดยบล.เอเชียเวลท์ และบล.เมย์แบงก์กิมเอง ให้ราคาเป้าหมาย  16.50 บาท ส่วนเคจีไอ ให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 16 บาท ขณะที่บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ให้ราคาเป้าหมาย 18 บาท   

 

โบรกเกอร์ มองตรงกันว่า HMPRO ได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว คาดว่ามีจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 4/64 และต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และการเปิดประเทศ รวมถึงการ เปิดโฮมโปรสาขาใหม่ 1 สาขาใหม่ ช่วงไตรมาส 4/64 

 

ส่วน GLOBAL กำไรเติบโตดี ทำให้ บล.เมย์แบงก์กิมเอง แนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 27 บาท มองว่า กำไรสุทธิ 9 เดือน คิดเป็น 83%ของคาดการณ์กำไรปีนี้ คาดว่ากำไรปีนี้จะเติบโต 54% เป็น 3,136 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี หน้า 8% เป็น 3,382 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้ GLOBAL มีแผนลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งอาจเริ่มมีการขยายสาขาในปี 2566 สนับสนุนการเติบโตของบริษัทในระยะยาว 

 

เช่นเดียวกับ บล.คันทรี่ ให้ราคาเป้าหมาย 29 บาท มองว่าผลประกอบการที่โดดเด่นได้แรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น จากยอดขายสินค้า House Brand คาดว่าไตรมาส 4/64 จะเติบโตขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อหน้า และช่วงเดียวกันปีก่อน จากความต้องการใช้วัสดุในการปรับปรุงบ้านเรือนหลังน้ำท่วม  

 

-----------------

ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่

Facebook : Clubhoon

Website : www.Clubhoon.com

Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com