โกลบอลเฮ้าส์ เผยงบไตรมาส2 กำไรแตะ 1,028.49 ล้านบาท เพิ่ม 5.78% เหตุยอดขายของสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้นและการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 3 สาขา ดันรายได้จากการขายเพิ่มกว่า 3%
บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส2/65 มีกำไรสุทธิ 1,028.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.78% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 972.28 ล้านบาท
ส่วนงวดครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 2,185.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น12.74% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 1,938.05 ล้านบาท
กำไรที่เพิ่มขึ้น มีปัจจัยหลัก ดังนี้
1) รายได้จากการขาย สำหรับไตรมาส 2/2565 เท่ากับ 9,219.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2564 จำนวน 331.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.73% และ สำหรับงวด 6 เดือน เท่ากับ 18,853.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,286.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.32% เป็นผลมาจากยอดขายของสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้นและการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 3 สาขา
2) รายได้อื่น สำหรับไตรมาส2/2565 เท่ากับ 199.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 19.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.97% และงวด 6 เดือน เท่ากับ 371.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 41.55 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 12.60% เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าขนส่ง
3) กำไรขั้นต้นไตรมาส 2/2565 เท่ากับ 2,438.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 136.90 ล้านบาทหรือ 5.95% และคิดเป็นอัตรา 26.45% ของรายได้จากการขาย ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 0.56% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และสำหรับงวด 6 เดือน เท่ากับ 4,954.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน จำนวน 443.22 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 9.82% คิดเป็นอัตรา 26.28% ของรายได้จากการขาย ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 0.60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการกระตุ้นยอดขายสินค้ากลุ่ม House Brand
4) ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายการบริหาร (ไม่รวมค่าเสื่อมราคา กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เกิดขึ้นจริง และ กำไร(ขาดทุน)จากเงินลงทุนชั่วคราวที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) ประจำไตรมาส 2/2565 เท่ากับ 1,003.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 71.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.68% โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวคิดเป็น 10.88% ของยอดขาย และสำหรับงวด 6 เดือน เท่ากับ 1,935.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน184.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.54% โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวคิดเป็น 10.27%ของยอดขาย เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินเดือนพนักงานของสาขาที่เปิดใหม่ 3 สาขา ค่าสาธารณูปโภค และการปรับสู่อัตราปกติของค่าภาษีโรงเรือน
5) ต้นทุนทางการเงินไตรมาส2/2565 เท่ากับ 46.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 0.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.74% เนื่องจากเงินกู้ระยะยาวกับสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้น และสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุด เท่ากับ 91.68 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2.35 ล้านบาท หรือลดลง 2.50% เนื่องจากบริษัทฯได้ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน ในไตรมาสที่1และ2 เป็นผลให้ดอกเบี้ยจ่ายสำหรับงวด 6 เดือนลดลง
6) ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ไตรมาส2/2565 เท่ากับ 252.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จำนวน 20.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.97% และสำหรับงวด 6 เดือน เท่ากับ 527.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2564 จำนวน 70.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.41% เป็นผลจากกำไรก่อนหักภาษีที่เพิ่มขึ้น
7) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา(EBITDA) ไตรมาส 2/2565 เท่ากับ 1,638.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 68.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.37% และงวด 6 เดือน เท่ากับ3,422.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2564 จำนวน 317.63 ล้านบาท หรือ 10.23%
ณ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทฯมีจำนวนสาขารวม 76 สาขา เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2564 จำนวน 3 สาขา