สินมั่นคง เปิดที่มาและสาเหตุ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ยืนยันเป็นทางออกเดียวที่เหลือ และเหมาะสมที่สุดสำหรับทุกฝ่าย เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยโควิดได้รับชำระหนี้ ดีกว่าปิดกิจการ
นายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด(มหาชน) ได้สรุปแนวทาง และขั้นตอนการแก้ไข การดำเนินการเกี่ยวกับ การยื่นคำร้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบ โดยระบุถึงที่มา และสาเหตุของการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการว่า
- ในปี 2564 บริษัทรับประกันภัยโควิด ประเภทเจอจ่ายจบ มีเบี้ยรับรวม 661 ล้านบาท หลังโควิดแพร่กระจายในวงกว้าง ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อจำนวนมาก มีผู้เอาประกันยื่นเคลมสินไหมทดแทน คงค้าง 350,000 ราย คิดเป็นเงินประมาณ 30,000 ล้านบาท และหากนับรวมสินไหมที่จ่ายไปแล้ว มียอดรวมทั้งหมดประมาณ 41,875 ล้านบาท จนทำให้บริษัทมีสินทรัพย์สภาพคล่องไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ที่ถึงกำหนด
- บริษัท พยายามดูแลผู้เอาประกัน โดยนำเงินจากกำไรสะสมทั้งหมดมาจ่ายชำระค่าสินไหนทดแทนไปแล้วกว่า 11,000 ล้านบาท
- จากยอดสินไหมทดแทนที่มีจำนวนมาก ทำให้นักลงทุนยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมทุน บริษัท จึงไม่อาจหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการชำระหนี้
- บริษัทมีหนี้สินล้นพ้น ตัวตามงบการเงินไตรมาส 1/65 บริษัทมีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์เป็นจำนวน 27,225 ล้านบาท
- การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด และเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดเพียงช่องทางเดียว ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัท และผู้เกี่ยวข้องกับบริษัท
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาและการกลับมาดำนินธุรกิจในอนาคต
เบื้องต้น ทางบริษัทฯ จะร่างแผนเสนอแนวทางการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ ซึ่งจากการศึกษาในเบื้องต้น เป็นไปได้หลายแนวทางดังนี้ โดยแนวทางในการชำระหนี้จะได้มีการหารือร่วมกับเจ้าหนี้ในระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป
1. การหาแหล่งเงินทุนใหม่และปรับโครงสร้างทุน โดยการเพิ่มทุนจากผู้ร่วมทุนใหม่ เพื่อนำมาใช้ในการชำระหนี้ และ/ หรือ เพื่อปรับโครงสร้างทุนให้มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
2. การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ การชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน
3. ศึกษาและจัดเตรียมแผนและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจประกันภัยให้เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ รามถึงประเด็นอื่น ฯ เกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการ
1. ความร่วมมือจากเจ้าหนี้เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับแนวทางการชำระหนี้ร่วมกัน
2. ความสามารถในการจัดหาแหล่งเงินทุน และมูลค่าของกิจการของบริษัทฯ
3. กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ตลอดจนคำสั่งหรือความเห็นของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
4. การสนับสนุนและความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
5. ความเชื่อมั่นของผู้เอาประกันภัย ตัวแทน นายหน้า คู่ค้าต่าง ๆ ต่อภาพลักษณ์ของบริษัทฯ
6. แนวโน้มอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยในอนาคต
7. สภาพเศรษฐกิจโดยรวม
บริษัทฯ ขอยืนยันว่าบริษัทฯ มีเจตนาที่ดีในการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินไหมกรมธรรม์ประกันภัยโควิดฯ โดยการฟื้นฟูกิจการ เปิดโอกาสให้บริษัทฯ และผู้เอาประกันภัยโควิด เจรจาร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการชำระหนี้ที่เหมาะสม และเป็นแนวทางที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย เพื่อได้รับการชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ มากกว่ากรณีที่บริษัทฯ ต้องปิดกิจการ
ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยโควิด จะได้รับชำระหนี้ค่าสินไหมทดแทน ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่มีการยอมรับร่วมกัน ผู้เอาประกันภัยโควิด ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้จะมีโอกาสได้พิจารณา และลงมติเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
สำหรับผู้เอาประกันภัยประเภทอื่น เช่น ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและภาคบังคับ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยเบ็ดเตล็ดและประกันขนส่งทางทะเล เป็นต้น บริษัทฯ ขอให้ความมั่นใจว่าบริษัทฯ จะยังคงให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยตามปกติ และรักษาคุณภาพ ความสะดวกรวดเร็ว ในการให้บริการ