Market

InnovestX  คาดเฟดยุติ QT แต่ไม่ชัดว่าลดดอกเบี้ยต่อ
30 ต.ค. 2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ (30 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์  คาดตลาดพักตัว นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อแต่เป็นระดับที่ลดลง เฟดลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด 25bps และประกาศยุติ QT อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ แต่ยังไม่ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะลดดอกเบี้ยต่อเป็นปัจจัยลบ ติดตามการพบกันระหว่าง ปธน.ทรัมป์และ ปธน. สี จิ้นผิงคาดมีแนวโน้มที่ดีทางเทคนิค ตลาดรีบาวด์ทดสอบแนวต้านที่ให้ไว้ 1320-1323 เมื่อวาน ต้องยืนเหนือจึงจะขึ้นรอบใหม่ แต่หากลงหลุดต่ำกว่า 1310 อีกจะลงทดสอบแนวรับถัดไป 1300

 

ประเด็นสำคัญ

• เฟดมีมติ 10–2 ลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ 3.75–4.00% ตามตลาดคาด ขณะเดียวกันประกาศยุติการลดขนาดงบดุล (QT) ตั้งแต่ 1 ธ.ค. เพื่อหยุดดึงสภาพคล่องออกจากระบบ ถือเป็นสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม แต่ยังไม่ชี้ชัดนักสำหรับการลดดอกเบี้ยต่อรอบไป

 

• รมว. คลังเผยความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ กับ USTR ว่ามีสัญญาณเชิงบวก แม้จะไม่มีการลดอัตราภาษีศุลกากรที่ 19% แต่สหรัฐฯ มีช่องทางเปิดโอกาสการลดหย่อนหรือยกเว้นอัตราภาษีสำหรับสินค้าบางรายการได้ผ่านการออก Executive Order 

 

• คลังเผยยอดใช้จ่ายในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ช่วงครึ่งเช้า (ถึง 12:00 น.) ในวันแรกมีประชาชนใช้สิทธิ์แล้ว 2.5 ล้านคน มูลค่ารวม 501 ลบ. สำหรับเฟสที่สอง รมว. คลังเผยว่าเบื้องต้นอยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณและจะให้สิทธิ์กับประชาชนที่พลาดในเฟสแรก

 

• กระทรวงต่างประเทศจีนยืนยัน ปธน. สี จิ้นผิงจะพบกับ ปธน. ทรัมป์เป็นครั้งแรกในเมืองปูซาน เกาหลีใต้ในวันนี้ (30 ต.ค.) เพื่อหารือด้านทวิภาคีและประเด็นสำคัญระดับโลก

 

• Bloomberg เผยจีนกลับมานำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ หลังหยุดนำเข้านับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568หลังจากสหรัฐฯ และจีนได้บรรลุกรอบการเจรจาข้อตกลงการค้าเบื้องต้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ มองเป็นสัญญาณบวกต่อบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศ

 

• EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในสัปดาห์ก่อนลดลง 6.86 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ส่วนสต็อกน้ำมันสำเร็จรูปลดลงสูงกว่าตลาดคาดเช่นกัน โดยสต็อกเบนซินและดีเซลลดลง 5.94 และ 3.36 ล้านบาร์เรลตามลำดับ สะท้อนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัว

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1285-1335 จุด คาดตลาดจะให้น้ำหนักและติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ได้แก่ 1) การประชุมนโยบายการเงิน FOMC ECB และ BoJ (30 ต.ค.) โดยเฟดได้ลดดอกเบี้ยลง 25bps สู่ 4.00% ประกาศหยุดทำ QT แต่สัญญาณการลดดอกเบี้ยยังไม่ชัดเจน ขณะที่ ECB และ BoJ คาดคงดอกเบี้ยนโยบาย 2) หากมีการพบกันระหว่างทรัมป์และสีจิ้นผิงในช่วงก่อนประชุม APEC คาดจะส่งผลบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง 3) งบ 3Q68 ของ บจ. ขนาดใหญ่สหรัฐฯ ที่คาดจะออกมาดีกว่าตลาดคาด และ 4) PMI ภาคการผลิตของจีนที่คาดจะฟื้นตัว ส่วนในประเทศเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 3Q68 ของหุ้น Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

 Daily Top Picks

OR: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มกำไรสุทธิใน 3Q68 คาดว่าจะออกมาดี อยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท +26%QoQ และพลิกจากขาดทุน 1.6 พันลบ. ใน 3Q67 หนุนจากค่าการตลาดที่สูงขึ้นและยอดขายของ Café Amazon ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนแนวโน้มกําไร 4Q68 คาดว่ายังฟื้นตัวต่อ เป้าหมายระยะสั้นที่ 14.90 บาท

 

TRUE: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากกำไรที่จะเร่งตัวขึ้น มองการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และ FBB และการประหยัดต้นทุนจากการประมูลคลื่นความถี่ตั้งแต่ ส.ค. 2568 จะทำให้กำไรปกติใน 3Q68 เติบโต YoY และ QoQ และแข็งแกร่งกว่า ADVANC เป้าหมายระยะสั้นที่ 11.80 บาท  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com