ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง DEXON เสนอขาย IPO 123.18 ล้านหุ้น พร้อมลุยตลาดหลักทรัพย์ mai ระดมทุนขยายธุรกิจ วางเป้าขึ้นแท่นผู้พัฒนาเทคโนโลยีการตรวจสอบเฉพาะทางขั้นสูงแก่อุตสาหกรรมชั้นนำระดับนานาชาติครบวงจร เดินหน้าให้บริการต่อเนื่องทุกภูมิภาคทั่วโลกอย่างยั่งยืน พร้อมรับเทรนพลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นางมัลลิกา แก่กล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ DEXON เปิดเผยถึงแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)ว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 123.18 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท
โดย DEXON เป็นผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรม และสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสำหรับตรวจสอบโครงสร้าง และอุปกรณ์การผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม พลังงาน ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมก่อสร้าง โรงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ มีทีมผู้เชี่ยวชาญ และทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์ รวมถึงให้บริการด้วยมาตรฐานทางเทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยที่บริษัทสามารถพัฒนาขึ้นเองได้รับการยอมรับ และได้รับใบรับรองมาตรฐานต่าง ๆ จากหน่วยงานรับรองระบบในระดับสากล
สำหรับรูปแบบการให้บริการตามโครงสร้าง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย 1. การบริการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Advance Inspection Technology) 2.การบริการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน (Conventional Inspection Technology) 3.การบริการฝึกอบรมด้านการตรวจสอบ (Training Services) และ 4.การให้บริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม ประกอบ ติดตั้งและซ่อมบำรุง (Engineering design, Assembly, Installation and Maintenance Service)
การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ (ทวีปยุโรป) รวมถึงสหรัฐอเมริกา โดยเน้นให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ที่มีคู่แข่งในตลาดน้อยราย โดยเฉพาะการตรวจสอบรอยแตกขนาดเล็กในระบบท่อส่งที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่มีเทคโนโลยีสูงที่บริษัทพัฒนาขึ้น , ลงทุนในงานวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม เช่น การเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ, การตรวจสอบระบบท่อส่งเพื่อรองรับการแปลงไปสู่การใช้งานของก๊าซไฮโดรเจน ที่จะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในระบบท่อส่งจากเดิมเป็นน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เป็นการขนส่งก๊าซไฮโดรเจน การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับบริษัท
ในขณะเดียวกัน DEXON ยังมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ เพื่อขยายการให้บริการ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจรได้อย่างครอบคลุม ผ่านบริษัทย่อย ได้แก่ 1. บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี พีทีอี ลิมิเต็ด (DTS) ให้บริการลูกค้าในประเทศสิงคโปร์ และประเทศข้างเคียง 2. บริษัท เด็กซ์ซอน เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด (DTC) ให้บริการการฝึกอมรบเพื่อส่งเสริม และยกระดับความรู้ความสามารถแก่บุคลากรทั้งภายในและภายนอกบริษัท 3. บริษัท เด็กซ์ซอน เมคคานิคอล โซลูชั่นส์ จำกัด (DMS) ให้บริการงานออกแบบทางวิศวกรรม งานประกอบ งานโครงสร้าง และงานให้บริการบุคลากรทางด้านเครื่องกล และซ่อมบำรุงทั้งในส่วนงานท่อ และโครงสร้าง ในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม และปิโตรเคมี 4. บริษัท ดาคอน ยุโรป บีวี (DEBV) จัดตั้งในเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้การดำเนินงานครอบคลุมลูกค้าในทวีปยุโรป และอเมริกา
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จะเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจบริษัทให้แข็งแกร่ง เพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงในอนาคต ซึ่งDEXON มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการตรวจสอบเฉพาะทางขั้นสูงแก่อุตสาหกรรมชั้นนำระดับนานาชาติแบบครบวงจร และให้บริการอย่างต่อเนื่องไปทุกภูมิภาคของโลกอย่างยั่งยืน” นางมัลลิกา กล่าว
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือไฟลิ่ง ของ DEXON เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจาก DEXON ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล หรือไฟลิ่ง และร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 123.18 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท โดยภายหลังได้รับอนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับ จะกำหนดวันที่เสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ DEXON เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
สำหรับผลการดำเนินงานของ DEXON ในปี 2563-2565 มีรายได้จากการขาย และบริการ 438.97 ล้านบาท 433.46 ล้านบาท และ 608.51 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 11.04 ล้านบาท 18.15 ล้านบาท 105.15 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งรายได้ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 175.04 ล้านบาท เติบโต 40.38% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 และมีกำไรสุทธิในปี 2565 เพิ่มขึ้น 87 ล้านบาท เติบโต 479.33% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 เนื่องจากลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก ตามสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลาย และบริษัทสามารถเดินทางไปให้บริการในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่เผชิญวิกฤต COVID-19 มาตั้งแต่ปี 2563