โบรกฯ ชี้หุ้นโรงไฟฟ้า SPP ได้ประโยชน์ยกแผงจากการปรับขึ้นค่า Ft ในงวด ม.ค.-เม.ย.65 ชู BGRIM, GPSC เด่นสุด เพราะมีสัดส่วนรายได้จาก SPP มากที่สุด

การประกาศปรับขึ้นค่า Ft ของคณะกรรมมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ขึ้นเป็น 16.71 สตางค์ต่อหน่วย ในงวด ม.ค.-เม.ย.2565 ในแง่นักลงทุน และคนทั่วไปต่างได้รับผลกกระทบในเชิงลบ จากภาระค่าไฟฟ้าที่ปรับสูงขึ้นทำให้กำลังซื้อลดลง ขณะเดียวกันบรรดาธุรกิจ โรงงาน และอุตสาหกรรมต่างๆ ล้วนแต่มีต้นทุนที่สูงขึ้น และยังกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้นจะมีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีธุรกิจที่ได้รับผลดีจากการปรับขึ้นค่า Ft โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP โดยภาพรวม โดยเฉพาะ BGRIM ที่มีสัดส่วนรายได้ SPP 90% ของรายได้รวม และ GPSC ที่มีสัดส่วนรายได้ SPP 60% ของรายได้รวม

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (DBSV) ประเมิน โรงไฟฟ้า SPP ได้ประโยชน์ เนื่องจากต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นทำให้ภาครัฐต้องปรับขึ้นค่า Ft ให้ตามสูตรราคา หากพิจารณาตามสัดส่วนที่เป็น SPP มากที่สุด คือ BGRIM รองลงมา คือ GPSC  และ GULF ตามลำดับ ส่วน ROJNA และ WHA ก็มีโรงไฟฟ้า SPP เหมือนกัน คำแนะนำ คือ ซื้อ BGRIM - GPSC - ROJNA และ WHA

ด้าน บล.เอเอสแอล มองว่า การประกาศปรับค่า Ft เป็นบวกกับ BGRIM GULF และ GSPC ที่ทำให้โรงไฟฟ้าทั้ง 3 สามารถขายไฟในราคาที่สูงขึ้น และส่งผลให้มี margin ที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเชิงบวกจากแผน PDP ของไทยและเวียดนามในช่วงไตรมาส 1 ของปีหน้า ซึ่งตลาดคาดว่า จะมีโครงการโรงไฟฟ้าของทั้ง 3 บริษัท รับประโยชน์ด้วย

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ EA, SSP, GPSC และ BGRIM โดยให้เหตุผล ประเด็นปรับขึ้นค่า Ft จะเป็นตัวหนุนต่ออัตราการทำกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น

-------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1