แนวโน้มตลาดวันนี้ (29 ส.ค.) บล. อิตโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดแกว่งตัวผันผวนรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเวลา 15.00 น. วันนี้ ซึ่งจะสร้างความชัดเจนในระยะสั้น แต่ปัจจัยหลักคือระยะเวลาที่รัฐบาลจะกลับมาทำงานได้ตามปกติ เพราะจะกระทบเศรษฐกิจและตลาดโดยตรง คืนนี้ติดตาม PCE สหรัฐฯ หากออกมาไม่สูงกว่าคาดนัก เราเชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. นี้ มุมมองเทคนิค หากเป็นเพียงการพักฐานสั้น ไม่ควรหลุดแนวรับ 1245/1230 อีกแล้ว การปรับตัวขึ้นมีแนวต้านที่ 1260/1268
ประเด็นสำคัญ
• วันนี้ (29 ส.ค.) เวลา 9:30 น. ศาล รธน. มีกำหนดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือและลงมติในคำร้องว่าความเป็นนายกฯ ของนางสาวแพทองธารสิ้นสุดหรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จ ฮุนเซ็น และ ศาล รธน. มีกำหนดออกบังลังก์อ่านคำวินิจฉัยเวลา 15:00 น. เป็นต้นไป
• 2Q68 GDP สหรัฐฯ (ประมาณการครั้งที่สอง) พลิกขยายตัว 3.3%QoQ สูงกว่าประมาณการครั้งแรกและคาดการณ์ตลาด จากไตรมาสก่อนที่หดตัว 0.5%QoQ หนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการขายขั้นสุดท้ายให้กับผู้ซื้อเอกชนในประเทศที่สูงขึ้น และมูลค่านำเข้าที่ลดลงจากประมาณการครั้งก่อน
• สศค. เผย ศก. ไทยใน ก.ค. 2568 ได้แรงหนุนจากการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 หนุนจากสินค้าคอมพิวเตอร์, แผงวงจร, เครื่องจักรกล, ผลไม้ และน้ำตาล โดยตลาดส่งออกสู่สหรัฐฯ, จีน และญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่ง และการบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นตัว แต่การลงทุนภาคเอกชนและการท่องเที่ยวยังชะลอตัว
• สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ใน ก.ค. 2568 ที่ 93.34 หดตัว 4.0%YoY กดดันจากการผลิตยานยนต์ที่กลับมาหดตัวและโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่หยุดซ่อมบำรุงตามแผนประจำปี และปรับคาดการณ์ MPI ปีนี้เหลือ 0.0-0.5% (เดิม 0-1%) ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิต (CapU) อยู่ที่ 57.37%
• JETRO เผยสถานการณ์การเมืองไทยไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยยะฯ ต่อการตัดสินใจลงทุนของ นลท. ญี่ปุ่น เนื่องจากเห็นความมุ่งมั่นของไทยต่อนโยบายส่งเสริม FDI เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แม้เผชิญการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจำนวนมาก และแนะนำไทยออกมาตรการกระตุ้น ศก. ใหม่ เพื่อรับมือภาวะ ศก. ชะลอตัวใน 2H68 โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าคงทน
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดโลกหลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเดือนหน้า แต่ Upside ยังจำกัดเพราะนักลงทุนรอความชัดเจนทางการเมือง โดยวันที่ 29 ส.ค. เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกฯ ซึ่งอาจกำหนดทิศทางตลาดใน 3 กรณีหลัก 1) หากศาลตัดสิน “พ้นจากตำแหน่ง” หรือหากนายกฯ ลาออกก่อน อาจกดดัน SET ลงแรงช่วงสั้นจากความกังวลสุญญากาศทางการเมือง และต้องติดตามการเสนอชื่อนายกฯ คนใหม่หรือการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล 2) หากศาลตัดสินว่า “ไม่มีความผิด” ตลาดมีโอกาสฟื้นช่วงสั้นจากแรงซื้อคลายกังวลต่อเสถียรภาพการเมือง แต่ Upside ยังจำกัดเพราะยังมีคดีอื่นที่รอพิจารณา3) หาก “ยุบสภา” อาจเป็นผลบวกต่อตลาด เพราะทำให้การเมืองชัดเจนขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
Daily Top Picks
TRUE: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากกำไรที่จะเร่งตัวขึ้น มองการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และ FBB และการประหยัดต้นทุนจากการประมูลคลื่นความถี่ตั้งแต่ ส.ค. 2568 จะทำให้ 3Q68 TRUE มีกำไรปกติเติบโต YoY และ QoQ แข็งแกร่งกว่า ADVANC ซึ่งจะหนุนให้ราคาหุ้น TRUE ปรับตัว Outperform ได้
GULF: ได้ประโยชน์จากแนวโน้ม Yield ที่ปรับตัวลง ใน 2H68 จะมีการ COD โรงไฟฟ้าใหม่ 7 โรงรวม 597MW ขณะที่ โรงไฟฟ้า Jackson (1,200MW, ถือ 49%) รับ Capacity Payment ใหม่ตั้งแต่ มิ.ย. จาก US$30 เป็น US$270/MW-day ส่วน Data Center 25MW เริ่มรับรู้รายได้ ส.ค.นี้ และการ COD โครงการ Solar และ Solar+BESS